เล็กๆ ไม่ ใหญ่ไหญ่ๆ ทำ! ทรู ควัก 150 ล้าน ผุดซีรี่ส์ “ศรีอโยธยา” ใช้การตลาด “รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส” ปลุกกระแส

เมื่อ “ค่ายทรูฟอร์ยู” หันมามาผลิตละครอีกครั้ง ก็เลือกนำภาพยนตร์ซีรี่ส์อิงประวัติศาสตร์ “ศรีอโยธยา” เรื่องราวของพระมหากษัติย์ไทยในยุคสมัชอยุธยากับการปกป้องแผ่นดินไทยมาผลิต โดยมีกำหนดออนแอร์ในวันที่ 5 ธันวาคม ใช้งบลงทุนมากกว่า 150 ล้านบาท

พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น บอกว่า ทรูเริ่มโครงการนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยได้หม่อมน้อย หรือ หม่อมหลวงพันธ์เทวนพ เทวกุล ซึ่งเคยมีผลงานละครเรื่องสี่แผ่นดิน มาเป็นทั้งผู้กำกับ และเขียนบทประพันธ์ ผ่านการตีความประวัติศาสตร์แบบใหม่

ส่วนทรู ได้นำบทประพันธ์ของซีรีส์เรื่องนี้ มาตีความ ด้านการตลาด” ผ่านการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า เพื่อสื่อให้ผู้คนเข้าใจเรื่องราวและตัวละคร และยังเป็นจุดขายทางการตลาด  เพราะถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ของการทำการตลาดภาพยนตร์  โดยใช้ประโยชน์จากช่องทางต่างๆของทรู และพันธมิตรมาร่วมกันโปรโมท

นินา ฐานทองธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านคอนเทนต์และมีเดีย กลุ่มทรู อธิบายเพิ่มเติมว่า ประสาทสัมผัสแรก “รูป” คือภาพที่สื่อถึงเรื่องราวในเรื่อง  อย่าง เครื่องแต่งกายของนักแสดงในเรื่อง จะศึกษาวิจัยออกแบบใหม่ทั้งหมด ใช้ทีมคอสตูมถึง 3 ชุดเพื่อดูแลเครื่องแต่งกายชนชั้นสูง เครื่องแต่งกายขุนนาง ประชาชน และเครื่องแต่งกายสมัยปัจจุบัน

ในแง่สัมผัสที่สอง “รส”  เนื่องจากช่วงปลายสมัยอยุธยา เป็นช่วงที่การค้าของอยุธยารุ่งเรืองมาก เป็นเมืองท่าทางการค้าในสมัยโบราณ มีตั้งยุโรป แขก อินเดีย จีน ญี่ปุ่นเข้ามาทำการค้า เปรียบเสมือน “นิวยอร์ค” ในสมัยนี้ มีการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าระหว่างประเทศอย่างคึกคัก

กาแฟ เป็นสินค้าที่ชนชั้นสูงเริ่มนิยมดื่มกัน เป็นสินค้านำเข้าที่ราคาแพง ดังนั้น กาแฟ จึงตอบโจทย์ในเรื่องของ “รสสัมผัส” ได้ชัดเจนที่สุด

ทรู จึงได้ไปจับมือกับ Class Café  ร้านกาแฟยอดนิยมในอีสาน เจ้าของฉายา “สตาร์บัคอีสาน” มาเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยคิดรสชาติกาแฟสูตรพิเศษโดยเฉพาะ ได้รสชาติกาแฟให้ตามชื่อคาแรคเตอร์ตัวละครที่แตกต่างกัน 8 รสชาติ เช่น The Noble, The Prince, The Princess, The Knight, The King , The Queen, The Angle , และ The Empress  วางขายที่ Class café ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน และออกงานอีเวนท์

สัมผัสที่สาม คือ กลิ่น ตามท้องเรื่องคือกลิ่นดอกไม้โบราณ ดอกแก้ว ได้ร่วมกับ Hann เจ้าของผลิตภัณฑ์สปา ที่ผลิตจากธรรมชาติของไทยชื่อดัง ในการผลิดน้ำหอม กลิ่นดอกแก้ว หรือ jasmine rose ขึ้นมาให้เป็นพิเศษ

สัมผัสที่สี่ เสียง ได้จัดทำเพลง “โยเดีย” ชื่อเรียกอยุธยาโดยชาวต่างชาติ เป็นดนตรีในสไตล์ร่วมสมัย Contemporary ที่ผสมผสานวัฒนธรรมในยุคสมัยโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน

สุดท้าย ”สัมผัส” เป็นรูปแบบการจัดอีเวนท์ที่จะให้ลูกค้าทรูและผู้ชมกลุ่มพิเศษเข้ามารับรู้ประสบการณ์สัมผัสทั้งห้าของ”ศรีอโยธยา” เป็นการโหมโรงก่อนที่ภาพยนตร์ซีรี่ส์เรื่องนี้จะออนแอร์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้

นอกจากนี้ ทรูมีแผนที่จะนำเรื่อง ศรีอโยธยา ไปขายในตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ทรูยังไม่เคยเข้าไปมาก่อน เพราะยังไม่มีคอนเทนต์ที่เหมาะสม

“ศรีอโยธยา เป็นเรื่องแรก ที่มีความชัดเจนมาก ว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่โดนใจชาวยุโรป เพราะนำเสนอความเป็นตะวันออกที่เด่นชัดมาก เทรนต์ตอนนี้ความเป็นตะวันออกกำลังมาแรกในตลาดยุโรป จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี  ชื่อเสียงของหม่อมน้อย ที่เป็นที่รู้จักในตลาดหนังยุโรปและอเมริกา จะช่วยทำให้การรุกเข้าตลาดเหล่านี้ เป็นไปได้โดยง่ายมากขึ้น“ พีรธนกล่าว

เดิมตลาดคอนเทนต์ของทรู ที่ใหญ่ที่สุดคือ ตลาดประเทศจีน ซึ่งได้ฐานสนับสนุนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทางกลุ่มได้เล็งการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกามานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีคอนเทนต์ที่ตรงจุดเท่านั้นเอง

พีรธนบอกว่า แม้ว่าจะใช้งบประมาณสูง ถึง 150 ล้าน ออกอากาศ 24 ตอน ตอนละ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น เท่ากับว่าใช้งบประมาณการลงทุนต่อตอนสูงถึง 6.25 ล้านบาท อาจเรียกได้ว่าสูงสุดในการผลิตละครหนึ่งตอนของไทยเลยทีเดียว

แต่ทรูเชื่อว่า ทุกอย่างที่ลงทุนไปนั้นคุ้มค่า เพราะนอกจากจะมีรายได้จากการขายคอนเทนต์ในต่างประเทศแล้ว ยังตอบโจทย์ convergence ของกลุ่ม จะออกอากาศทุกช่องทางในกลุ่มทรูและซีพี ทั้งในช่องติจิทัลฟรีทีวี ช่องในทรูวิชั่นส์ ทางออนไลน์ แอปพลิเคชั่นส์ มือถือ และโซเชียลมีเดียทุกสื่อ รวมถึงช่องทางจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เช่นใน 7-11 และร้านเชสเตอร์กริลล์งทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังช่วยโปรโมทอีกด้วย.