โชห่วยยังขลัง

เมื่อโชห่วยยิ่งเติบโตเท่าไหร่ แม็คโครก็ยิ่งมั่นคงแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น แม็คโครจึงต้องอาศัยจังหวะรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยสินเชื่อ Fast Track และครบรอบ 20 ปี ควักงบ 15 ล้านบาท ลงทุนจัดงาน “ตลาดนัดโชห่วย” ขึ้นเป็นปีที่สอง ครั้งนี้ไม่เพียงมัดใจร้านโชห่วยเดิมเท่านั้น แต่ยังหวังกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาเปิดร้านโชห่วยมากขึ้น

แม้ร้านโชห่วยจะดูล้าหลังในสายตาคนทั่วไป แต่ไม่ใช่สำหรับแม็คโคร เพราะร้านค้าเหล่านี้คือฐานลูกค้าสำคัญที่แม็คโครต้องดูแลอย่างดี นอกจากไม่ให้เปลี่ยนใจไปไหน ยังต้องอยู่รอดได้ ภายใต้สโลแกน “Makro มิตรแท้โชห่วย” เป็น Positioning ที่แม็คโครใช้หลายปีมาแล้ว

ภายในงาน นอกจากเรื่องจะมีบูธโชห่วยย้อนยุค เพื่อแสดงความผูกพันระหว่างแม็คโครและร้านโชห่วยที่มีมานยาวนานแล้ว ยังนำเรื่องของระบบการจัดการทันสมัย แนวทางการออกรูปแบบร้านโชห่วย ขนาด และรูปแบบต่างๆ เพื่อหวังจูงใจกลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาเปิดร้านดังกล่าวขึ้น ขณะเดียวกัน ก็กระตุ้นให้ร้านโชห่วยเดิมลุกขึ้นมาปรับโฉมเพื่อสู้ศึกร้านรีเทลในตลาดได้

“คนรุ่นใหม่นั้น จะมีเอกลักษณ์และแนวคิดเป็นของตัวเอง ขาดแค่ประสบการณ์ทำธุรกิจ ซึ่งออกจากที่นี่ไปวันนี้น่าจะมีไอเดียได้เลยว่า จะมีร้านขนาดเท่าไหร่ จะจัดการด้านการเงินและสินค้าในร้านอย่างไร รวมทั้งขายวันนี้คืนทุนวันไหน” สุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เล่า

แม็คโครรู้ดีว่าปัญหาที่พบมากของร้านโชห่วย คือ การขาดการบริหารจัดการที่ดี ทั้งการสั่งซื้อสินค้า การบริหารสต๊อก และการจัดร้านค้า แม็คโครจึงรวบรวมรูปแบบการจัดร้านค้าสำหรับโชห่วยได้ 7 แบบตามทำเลที่ตั้งของร้าน การออกแบบนี้ครอบคลุมตั้งแต่ ชั้นวางสินค้า รถเข็นเคลื่อนที่ ซุ้มสินค้าเบ็ดเตล็ด รถเร่ รถลากพ่วง ร้านค้า 1-2 คูหา และมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง แสดงเป็น Mog up model แบบครบวงจรธุรกิจให้ลูกค้าศึกษาพร้อมคำอธิบาย

ทุกวันนี้แม็คโครมีฐานสมาชิก 500,000 ราย จากโชห่วยในตลาดกว่า 2 ล้านราย โดยมีคู่แข่งเก่าแก่ ยี่ปั๊ว และซาปั๊วแล้ว เวลานี้ยังมีห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี มาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แม็คโครจึงต้องพยายามครองใจร้านโชห่วย ด้วยราคาที่ถูกกว่า แล้วยังใช้กิจกรรมการตลาดมาช่วยเหลือเต็มสูบ

แม็คโครเปิดศูนย์มิตรแท้โชห่วยเป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพื่อประสานงานกับภาครัฐและเอกชน เน้นให้ความรู้ทางการลงทุนในธุรกิจโชห่วย ถือเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์ CSR ที่แม็คโครนำมาเดินเกม และปีนี้ถือเป็นโอกาสครั้งที่สองของแม็คโคร ที่มองเห็นโอกาส จากนโยบายรัฐบาลอนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยโครงการสินเชื่อ Fast Track วงเงิน 10,000-400,000 บาท ซึ่งอนุมัติภายใน 3 วันให้แก่เอกชนผู้สนใจทำธุรกิจ
เมื่อออกแรงมากขนาดนี้ แม้ว่าปีนี้ธุรกิจจะติดลบถึง 6% ก็ตาม แม็คโครกลับเชื่อว่า จะเติบโต 2-3% สวนกระแสธุรกิจอื่นที่โตติดลบถึง 6% และคาดว่าจะเติบโตรวม 5% ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาแม็คโครมียอดขายประมาณ 72,000 ล้านบาท

Launched 11 กันยายน 2552 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นักข่าวสายต่างๆ ประมาณ 50 คน รวมทั้งผู้ร่วมพิธีเปิดกว่า 3,000 คน
Positioning ศูนย์จำหน่ายสินค้าบริโภคและอุปโภคที่มีคุณภาพในราคาขายส่ง
Target ผู้ประกอบการขนาดเล็กถึงขนาดกลางในธุรกิจร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านอาหาร องค์กรและสำนักงานต่างๆ
Strategy ใช้กลยุทธ์ CSR เน้นการสร้างแบรนด์ตอบแทนสังคม มุ่งไปที่ร้านโชห่วยซึ่งเป็น SMEs ขนาดเล็กในชุมชนให้พัฒนารูปแบบการจัดการร้าน เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับคอนวีเนียนสโตร์อื่นๆ
Market Analysis ร้านโชห่วยซึ่งยังคงมีกำลังซื้ออยู่พอสมควร ยิ่งรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยสินเชื่อ Fast Track วงเงิน 10,000-400,000 บาท ให้แก่เอกชนที่สนใจลงทุนธุรกิจ ซึ่งอนุมัติภายใน 3 วัน

มูลค่าตลาดค้าปลีกค้าส่งไทย 1.4 ล้านล้านบาท
โมเดิร์นเทรด 70%
ค้าปลีกดั้งเดิม อาทิ โชห่วย ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ตลาดสด 30%
ที่มา : สยามแม็คโคร

Did you know?
คำว่า “โชห่วย” มาจากคำในภาษาจีนว่า “โฉวห่วย” โดย “โฉว” แปลว่าปลีกย่อย ส่วน “ห่วย” แปลว่าสินค้า ดังนั้น “โชห่วย” จึงเป็นคำที่คนมักเขียนและเข้าใจผิดอยู่เสมอๆ