เหตุผลที่ขาใหญ่ออกโรงเอง

*I’ve got the power การแสดงศักยภาพทางการตลาดที่เหนือกว่าคู่แข่ง อย่างน้อยๆ ก็เป็นการตัดไม้ข่มนาม บรรดาคู่แข่ง FMCG ทั้งปวงที่มีผลประกอบการและส่วนแบ่งการตลาดที่ดีวันดีคืน

*Everything is under my wings เพื่อควบคุมรายการได้อย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งหมายถึงโอกาสที่มีเพิ่มมากขึ้นในการสื่อสารแบรนด์ในแง่มุมต่างๆ ที่จะ Engage กับผู้บริโภคได้มากขึ้น มากกว่าที่จะโฆษณาเพียงอย่างเดียว

*It’s so mass ได้รายการที่เข้าถึงแมสได้ทั่วประเทศ และมีชื่อเสียงการันตีระดับโลก และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางโดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญจากราชินี Youtube หรือซูซาน บอยล์ ที่เป็นรองชนะเลิศในรายการ Britain’s Got Talent และรูปแบบการประกวดที่เป็นบันเทิงย่อยง่ายจะทำให้ผู้บริโภคติดตามอย่างต่อเนื่อง

*Sweet advantage งบลงทุน 200 ล้านบาท อาจจ่ายจริงไม่ถึงครึ่ง หากยูนิลีเวอร์ตัดสินใจขายเวลาให้กับสปอนเซอร์อื่นๆ ที่เป็นพันธมิตร รวมถึงรายได้จาก SMS ค่าโหวต ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ตัดสินผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 12 คนสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนโหวตมหาศาลไม่ต่ำกว่าอะคาเดมี่ แฟนเทเชีย หรือเดอะ สตาร์ อย่างแน่นอน

*Come on sister การใช้แบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างซันซิล ผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นตัวขับเคลื่อนนอกเหนือจากจะช่วยให้ซันซิลซึ่งมี Brand Awareness สูงถึงเกือบ 100% ได้รั้งบัลลังก์อันดับ 1 ต่อไปนั้น ยังหมายถึงการช่วยผลักดันให้เรโซนาซึ่งยังมี Brand Awareness เพียง 50% แข็งแกร่งตามไปด้วย

*We are the biggest kingdom หากรวมอีก 16 แบรนด์ของยูนิลีเวอร์ที่จะกรีฑาทัพในรูปแบบของ TVC เพื่อสนับสนุนรายการนี้แล้ว ย่อมเป็นประโยชน์ต่อยูนิลีเวอร์โดยตรงในแง่ Brand Awareness ตลอดจนขับเคลื่อนยอดขายผ่านโปรโมชั่นต่างๆ (ที่สำคัญยังเป็นรูปแบบของอัฐิยายซื้อขนมยาย ที่มีแต่ได้กับได้อีกด้วย) เรียกได้ว่าหากรายการนี้เรตติ้งดีเลิศก็เท่ากับเป็นการตีกันคู่แข่งให้อยู่นอกกระแสนี้โดยปริยาย