ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ รุกตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์กลางเมือง

21 กุมภาพันธ์ 2548 – บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารโครงการบ้านอรุณพัฒน์ มั่นใจศักยภาพของบริษัทฯ เติบโตกว่า 200% คาดปี 2548 ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในผู้นำบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์ระดับกลาง-สูง วางหมากเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่กลางใจเมือง 6 โครงการ มูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท รุกขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่ต่างจังหวัดด้วยโครงการบ้านระดับพรีเมียม ภายใต้ฝีมือการบริหารงานของกลุ่มผู้บริหารคลื่นลูกใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และกลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้านแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 10 ปี

ดร.พิพัฒน์ ปรีดาวิภาต ประธานกรรมการบริหารในกลุ่มเครือแอลพีเอ็น กรุ๊ป และในฐานะประธานกรรมการบริหารในกลุ่มเครือธนาพัฒน์ เผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาพรวมและแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2548 ว่า สภาวการณ์ธุรกิจโดยรวมน่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากนโยบายและโครงการพิเศษต่างๆ ของรัฐบาล ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน โครงการบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย บ้านเอื้ออาทร เป็นต้น ประกอบกับแนวโน้มของการลงทุนในภาคธุรกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น จึงเป็นตัวขับเคลื่อนให้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมเติบโตในทิศทางที่ดี

“ถึงแม้ว่าในปี 2548 นี้จะมีปัจจัยภายนอก อาทิ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น การปรับราคาของวัสดุก่อสร้าง และการผันผวนของราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่ปริมาณความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็ยังมีการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการจ้างงานภาคเศรษฐกิจต่างๆ เพิ่มขึ้นมีการสร้างครอบครัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดความสมดุลระหว่าง Demand และ Supply สำหรับความต้องการบ้าน (Demand) ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีเหตุผลในการซื้อบ้านมากขึ้น มีความต้องการในที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง มีการเก็งกำไรในการซื้อขายน้อยลง สำหรับในส่วนของ Supply คาดว่า Supply ใหม่จะเข้าตลาดน้อยลง เป็นผลมาจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาโครงการใหม่และโครงการเก่าที่มีความผิดพลาด ตลอดจนการเปิดศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จะมีเสถียรภาพในระยะยาว ทั้งนี้บริษัท ธนาพัฒน์ฯ คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15%”

นายชัชวาลย์ ปรีดาวิภาต รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2547 ที่ผ่านมาว่า ธนาพัฒน์เปิดขายโครงการทั้งสิ้น 4 โครงการ มีมูลค่าโครงการโดยรวม 1,370 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 263 หน่วย แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 9 หน่วย บ้านทาวน์เฮ้าส์ 152 หน่วย ทาวน์โฮม 24 หน่วย และคอนโดมิเนียม 78 หน่วย โดยมียอดจองเฉลี่ยทุกโครงการกว่า 90%

สาเหตุของการได้รับการตอบรับที่ดีของบริษัทฯ เนื่องมาจากได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านของธนาพัฒน์ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด อีกทั้งทำเลที่ตั้งของแต่ละโครงการเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีระบบการจัดการด้านสาธารณูปโภคที่ดี และการคมนาคมที่สะดวก ถือได้ว่าบ้านของธนาพัฒน์เป็นบ้านที่อยู่ใจกลางเมือง สะดวกในการเดินทาง ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อกลุ่มผู้บริหารองค์กร ทำให้โครงการบ้านของธนาพัฒน์ฯ เป็นที่ยอมรับและเป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคที่คิดจะซื้อบ้าน ซึ่งหากบริษัท ธนาพัฒน์ฯ ยังคงรักษาระดับยอดขายอย่างต่อเนื่องจะเป็นผลให้การเติบโตของบริษัท ธนาพัฒน์ฯ ภายในปี 2548 มีอัตราการเติบโตมากกว่า 200% คิดเป็นมูลค่าโครงการโดยรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท

นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางและนโยบายการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2548 ที่จะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ของ “ธนาพัฒน์” ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยใช้การตลาดแบบผสมผสาน (Integrated Marketing Communication; IMC) เป็นเครื่องมือในการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ไปสู่สาธารณชน ซึ่งการตลาดแบบผสมผสานเหมาะสำหรับการใช้สื่อที่เป็นแมส (Mass) และในขณะเดียวกันสื่อแบบผสมผสานสามารถเจาะเข้าหาลูกค้าเฉพาะกลุ่ม หรือ มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายนั้นโดยตรง ซึ่งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักจะเอื้อประโยชน์ต่อการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เนื่องจากในปีนี้บริษัท ธนาพัฒน์ฯ หวังที่จะเป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้นำบ้านระดับกลางถึงระดับสูง

“สำหรับกลยุทธ์หลักในการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คือ การสร้างความเชื่อมั่นในฝีมือของผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ด้วยการสร้างบ้านที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดบนทำเลที่มีศักยภาพ การดูแลหลังการขายที่ดีเยี่ยม การส่งมอบบ้านที่สมบูรณ์แบบ การสร้างสังคมที่อบอุ่นภายในโครงการ และการตั้งราคาบ้านที่สมเหตุสมผล”

นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2548 บริษัท ธนาพัฒน์ฯ ได้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ แบ่งเป็น โครงการที่ตั้งบนทำเลใจกลางเมืองกรุงเทพฯ จำนวน 4 โครงการ และโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 โครงการ ถือเป็นโครงการที่ทางธนาพัฒน์ขยายธุรกิจสู่ต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก

โครงการใหม่ของบริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล๊อปเมนท์ จำกัด ในปี 2548 ได้แก่

1. โครงการบ้านอรุณพัฒน์ ป่าตอง-ภูเก็ต บ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ท กลางเมืองป่าตอง ตั้งอยู่บนถนนนาใน มูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท ขนาดโครงการ 10 ไร่ รวม 40 ยูนิต

2. โครงการบ้านเดี่ยวริมทะเลบนเกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการประมาณ 180 ล้านบาท ขนาดโครงการ 4 ไร่ รวม 3 ยูนิต

3. โครงการบ้านอรุณพัฒน์ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์เฟสใหม่ บนถนนพระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ มูลค่าโครงการประมาณ 700 ล้านบาท ขนาดโครงการ 15 ไร่ รวม 100 ยูนิต

4. โครงการบ้านทาวน์เฮาส์กลางเมือง จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท

“สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตนั้น ทางบริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของที่ดินถึงแม้ว่าจะเกิดภาวะวิกฤตการณ์คลื่นยักษ์สึนามิก็ตาม แต่เชื่อว่าในด้านตลาดที่พักอาศัยระดับพรีเมียมนั้นได้รับผลกระทบจากวิกฤติไม่มากนัก ซึ่งความต้องการซื้อยังคงมีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2548 โดยในไตรมาสที่ 2 จะเริ่มฟื้นตัวและต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 4 ที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ผู้ซื้อส่วนใหญ่เชื่อว่า คลื่นยักษ์สึนามิจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในช่วงชีวิตหนึ่ง และจะไม่มีผลกระทบต่อแผนการซื้อบ้านระดับพรีเมียมที่ดีมีคุณภาพ ความมีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ การบริหารจัดการที่ดี ราคาและทำเลที่ตั้งที่ดี ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อทั้งสิ้น ส่วนการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอื่นๆ นั้น ยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการศึกษา” นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กล่าวในที่สุด