อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ได้แสดงความกังวลถึงปริมาณอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนมีจำนวนมากกว่าประชากรจีนด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์จีนที่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวมากกว่าที่คาดไว้ และอาจาส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาวได้
Reuters อ้างอิงรายงานจาก China News Service ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีน ว่า อดีตรองหัวหน้าสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนกล่าวกับสื่อจีนรายดังกล่าวว่า ปริมาณอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนนั้นเกินจำนวนประชากรภายในประเทศแล้วด้วยซ้ำ รายงานดังกล่าวได้ตอกย้ำถึงฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์ภายในแดนมังกรในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
He Ken อดีตรองหัวหน้าสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนวัย 81 ปี ได้กล่าวกับสื่อในประเทศจีนโดยกล่าวว่า “ตอนนี้มีบ้านในประเทศว่างกี่หลัง ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนให้จำนวนที่แตกต่างกันมาก บางคนเชื่อว่าจำนวนบ้านว่างเพียงพอสำหรับประชากรมากถึง 3 พันล้านคน”
สื่อรายดังกล่าวได้ใช้ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และคำนวณตัวเลขดังกล่าว จีนมีพื้นที่รวมของบ้านที่ขายไม่ออกอยู่ที่ 648 ล้านตารางเมตร ซึ่งนั่นจะเท่ากับจำนวนบ้านที่ขายไม่ออกถึง 7,200,000 หลัง โดยคำนวณจากพื้นที่บ้านเฉลี่ย 90 ตารางเมตรต่อหลัง
นอกจากนี้อดีตรองหัวหน้าสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนยังได้กล่าวเสริมว่า “การประมาณการดังกล่าวนั้นอาจจะมากไปสักหน่อย แต่ประชากรจีนที่มากถึง 1,400 ล้านคนคงไม่สามารถเติมเต็มปริมาณอสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนมากกว่าได้”
ไม่เพียงเท่านี้ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยหลายโครงการที่ขายไปแล้วแต่ยังสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากปัญหากระแสเงินสด หรือแม้แต่โครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่มีการเก็งกำไรในช่วงตลาดขาขึ้นครั้งล่าสุดช่วงปี 2016 ซึ่งรวมกันเป็นจำนวนมาก
ในช่วงที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 5 ของขนาดเศรษฐกิจจีนมาแล้ว ขณะเดียวกันด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการดังกล่าวมาและทำให้เกิดปัญหาความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ จนท้ายที่สุดจีนต้องออกบางมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อจะฟื้นเศรษฐกิจจีนกลับมา
ขณะเดียวกันความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนจากภาคอสังหาริมทรัพย์ยังทำให้ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 16 ปี รวมถึงยังทำให้มีเม็ดเงินไหลออกจากจีนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทำสถิติสูงสุดด้วย
ปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์จีนยังทำให้ Bloomberg ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังช่วงปี 2040 ซึ่งแตกต่างกับในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่หลายฝ่ายมองว่าจีนจะเอาชนะได้ภายใน 10 ปีนี้ด้วยซ้ำ และขนาดเศรษฐกิจจีนจะทิ้งห่างสหรัฐฯ อย่างมาก