ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศผลการพิจารณา บล.แอ๊คคินซัน จก. (มหาชน) กรณีไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดและลงโทษเกี่ยวกับการเรียกค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ได้พิจารณาความผิดและลงโทษ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซันจำกัด (มหาชน) กรณีมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเรียกค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนและการกำกับดูแลกิจการที่ดีของสมาชิก พ.ศ. 2547 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2549 และข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การผ่อนผันการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และวิธีการเรียกค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2550 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550

“บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) ได้จ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่การตลาด จำนวน 6 ราย ในระบบการจ่าย ค่าตอบแทนตามสัดส่วนของรายได้ (Incentive Scheme) โดยเจ้าหน้าที่การตลาดไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำหรือรับ คำสั่งซื้อขายให้กับลูกค้า เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าว ได้รับค่าตอบแทนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จากข้อมูลดังกล่าว คณะอนุกรรมการฯ ได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 23, 30, 32 และ 33 แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าวมีมติให้ลงโทษปรับบริษัทเป็นเงิน 1,250,000 บาท” รองผู้จัดการกล่าว

นายสุทธิชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ให้บริษัทลงโทษโดยห้ามผู้จัดการสาขา 1 ราย และเจ้าหน้าที่การตลาด 3 ราย ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดและเจ้าหน้าที่รับอนุญาตของบริษัทเป็นการชั่วคราวระยะเวลา 60 วัน และ 30 วันตามลำดับ และให้บริษัทภาคทัณฑ์เจ้าหน้าที่การตลาด 2 ราย เป็นระยะเวลา 1 ปี รวมทั้งกำชับผู้บริหารของบริษัท 3 ราย และเจ้าหน้าที่การตลาด 2 ราย ให้ปฏิบัติงานเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเคร่งครัดต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน)ได้รับทราบมติของคณะอนุกรรมการฯ และยืนยันว่าบริษัทมีนโยบายที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเคร่งครัดเสมอมา ทั้งนี้บริษัทจะกำชับให้ผู้บริหารของบริษัทควบคุมดูแลและกำหนดระบบควบคุมภายในที่ดี เพื่อให้เป็นมาตรฐานและสอดคล้องตามกฎข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป