จับกระเเสตลาดคริปโตฯ 2021…ทำไมราคา ‘Bitcoin’ พุ่งปรี๊ดเเตะ 1 ล้านบาท

ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 เงินทุนกำลังไหลเข้าตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ดันBitcoin’ (บิตคอยน์) พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

เรียกได้ว่าเปิดปีใหม่ 2021 มาด้วยความร้อนเเรง ราคาของบิตคอยน์ 1 BTC มีมูลค่าเเตะ 1 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ถือเป็นราคาสูงที่สุด ตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายมานับทศวรรษ

ตลอดในปี 2020 ที่ผ่านมา มูลค่าของ Bitcoin เติบโตขึ้นเกือบ 300% ตามกระเเสเงินทุนไหลทะลักเข้ามาในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ อย่างเนื่องเเน่น ยอดทะลุ 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ถึง 600%

การที่สกุลเงินดิจิทัลอย่าง ‘Bitcoinมีค่าเพิ่มขึ้นถึงระดับ 30,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมาก แห่กันมาสนใจตลาดนี้ขึ้นมากขึ้นกว่าเดิม 

ข้อมูล ณ วันที่ 4 มกราคม 2021 เวลาประมาณ 11.20 น.

รู้จัก Bitcoin

Bitkub ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย อธิบายว่า Bitcoin คือสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลกที่เป็น “Decentralized” หรือกระจายศูนย์แตกต่างกับเงินดิจิทัลแบบ Centralized หรือแบบมีตัวกลางที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ โดยเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin ก็คือ Blockchain

Bitcoin ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลหรือองค์กรที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้วเค้าคือใครกันแน่ โดย Satoshi สร้าง Bitcoin ขึ้นมาให้มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ปัจจุบันมี Bitcoin ไหลเวียนอยู่ในระบบประมาณ 19 ล้านเหรียญ แต่เนื่องจาก Bitcoin ที่ออกมาใหม่จะน้อยลงเรื่อยๆ

ดังนั้น ด้วยความที่เป็น Decentralized ทำให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ไม่ถูกควบคุมโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง กล่าวคือสามารถตัดตัวกลางในการดำเนินธุรกรรมไปได้นั่นเอง เมื่อไม่มีตัวกลาง การดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ด้วย Bitcoin จึงมีค่าธรรมเนียมที่ถูกลงอย่างมาก รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ก็จะลดน้อยลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

อ่านเพิ่มเติม :
Bitkub แนะมือใหม่เริ่มลงทุนใน Bitcoin ต้องทำอย่างไร ?
ความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย 

ทำไมราคา Bitcoin พุ่งปรี๊ดรับปี 2021 ?

นักวิเคราห์มองว่า การที่ตลาดคริปโตฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปัจจัยโดยหลัก ๆ น่าจะมาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ความกังวลเกิดขึ้นทั้งภาวะเงินเฟ้อ เเละค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง

ประกอบกับ กระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค และการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด ซึ่งเเตกต่างจากการดีดตัวของ Bitcoin เมื่อครั้งปี 2017 ที่ส่วนใหญ่เป็นกระเเสจากรายย่อย

โดยอีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla และผู้ก่อตั้ง SpaceX เป็นมหาเศรษฐีรายล่าสุด ที่แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตฯ

ด้าน PayPal ยักษ์ใหญ่วงการ E-Payment ของสหรัฐฯ ประกาศว่า ในปี 2021 บริษัทพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมารองรับการซื้อขาย Bitcoin เเละสกุลเงินคริปโตฯ อื่นๆ มากขึ้น พร้อมตั้งเป้าจะให้ลูกค้าใช้สกุลเงินคริปโตฯ ในการซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกที่เป็นพันธมิตรกว่า 26 ล้านเเห่ง

โดย Bitcoin ได้รับเเรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกที่ต้องการฟื้นฟูประเทศจากพิษไวรัส ทำให้มีการลดหรือคงดอกเบี้ย เเละสกุลเงินของหลายประเทศก็อ่อนค่าลง โดยเฉพาะเงินดอลลาร์

เมื่อนักลงทุน เริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายการเงินของรัฐบาลเเละสกุลเงินหลัก ก็ทำให้เริ่มหันมาถือครอง Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้นนั่นเอง โดยบางรายถึงกับมองว่า เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่วิกฤตโรคระบาด เช่นเดียวกับทองคำ 

เเม้แนวโน้มทิศทางการเติบโตของตลาดคริปโตฯ ยังเป็นไปในทางบวกจากปัจจัยหนุนที่ว่ามาดังกล่าว เเต่นักวิเคราะห์บางราย ก็ออกมาเตือนว่า ให้ระวังภาวะตลาดปรับฐาน เพราะราคาของ Bitcoin ที่พุ่งกระฉูดจะสะดุดลงในปีนี้ หลังจากดีดตัวขึ้นไปอย่างมาก 

ขณะเดียวกัน ก็มีการเตือนว่า การที่ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นมากกว่า 300% ในปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากฟองสบู่ที่มีความเสี่ยง ซึ่งเกิดจากนักลงทุนที่ไล่ตามแรงเหวี่ยงของสกุลเงินนี้

สำหรับในไทยนั้น มีผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Asset Exchange จากตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย เเล้วดังนี้ (*bx.in.th ปิดให้บริการไปเเล้ว)

ที่มา : www.sec.or.th/digitalasset ณ วันที่ 4 มกราคม 2021

Bitkub ขึ้นเป็น Digital Asset Exchange รายใหญ่ใหญ่ที่สุดในไทย โดยมีสินทรัพย์กว่า 38 เหรียญ ภายหลังจากที่เจ้าใหญ่อย่าง bx.in.th ตัดสินใจยุติการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet) เนื่องจากบริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในทางอื่น ๆ ดังนั้น ภายหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2019 ลูกค้าจะไม่สามารถทำการซื้อขาย แลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง) ผ่านเว็บไซต์ bx.in.th ได้อีกต่อไป และบริษัทอยู่ระหว่างปฏิบัติตามขั้นตอนการคืนใบอนุญาตกับ ก...

ปรมินทร์ อินโสม กรรมการบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด วิเคราะห์ว่า ในปี 2021 ราคาของ Bitcoin มีแนวโน้มขึ้นไปถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ก็จะยังคงคึกคัก จากการซื้อขายของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย

“เศรษฐกิจโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จึงมีความต้องการขายเพื่อ cash out นำเงินสดมาดำรงชีวิตประจำวัน รวมทั้งการรักษาธุรกิจยังคงมีอยู่ ขณะที่บริษัทใหญ่ๆ ต้องหาทางกระจายความเสี่ยงสภาพคล่องมาลงทุนโดยใช้ Bitcoin เป็น Reserve Asset จึงทำให้มีการซื้อล็อตใหญ่ๆ หลายๆ รอบ” 

โดยคำแนะนำสำหรับนักลงทุนรายย่อย คือ คาดว่าราคาของบิตคอยน์จะคงอยู่ที่ 20,000-26,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงต้นเดือนมกราคม หลังจากนั้นจะมีโอกาสลงมาปรับฐาน และหลังจากเดือนเมษายน อาจมีการปรับตัวขึ้นอีกรอบ ดังนั้น “ต้องระวังไม่ถือยาว” เมื่อสถานการณ์โรคระบาดเริ่มดีขึ้น จึงเล่นตามเทรนด์ของตลาด อย่างไรก็ตาม ต้องบริหารความเสี่ยงและการลงทุนให้ดี เนื่องจากธรรมชาติของคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

เเม้ราคา Bitcoin จะพุ่งปรี๊ดดึงดูดใจใครหลายคน เเต่ด้วยความที่เป็นตลาดใหญ่ ผู้เล่นจากทั่วโลก ซื้อขายไม่มีวันเวลาหยุด ทำให้มีการผันผวนสูง เเละตลาดมีขึ้นก็ย่อมมีลง เหมือนการลงทุนอื่นๆ ดังนั้น เมื่อทุกการลงทุนมีความเสี่ยงจึงควรหาข้อมูล พิจารณาให้รอบคอบและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุนใด ๆ

 

 

ที่มา : Reuters , The Guardian, Coindesk , SET , MGR Online