กสิกรไทยย้ำเป็นผู้นำธุรกรรมออนไลน์ ประกาศใช้ระบบความปลอดภัยสูงสุดรายแรกในอาเซียน

กสิกรไทย ย้ำเป็นผู้นำระบบชำระเงินทางอินเทอร์เน็ต จับมือวีซ่า ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับบัตรวีซ่าแบบรหัสใช้ครั้งเดียว เป็นเจ้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยยกระดับความปลอดภัย ของการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต ตั้งเป้าเพิ่มธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตอีกกว่า 80%

นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารร่วมกับบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (VISA) ยกระดับความปลอดภัยของการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยบริการ Verified by VISA (VbV) ขึ้นอีกขั้น โดยการนำรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (One-time password: OTP) มาใช้สำหรับธุรกรรมการซื้อสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตผ่านบัตรเครดิตเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้บริการช้อปปิ้งออนไลน์

รหัส VbV OTP ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า มีความปลอดภัยสูง ช่วยป้องกันการทุจริตจากการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อผู้ถือบัตรทำธุรกรรมจนถึงขั้นตอนการชำระเงิน ธนาคารจะส่งรหัสผ่าน VbV OTP ที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวผ่านทางเอสเอ็มเอส (SMS) ไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ถือบัตรที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยเมื่อกรอกรหัส VbV OTP แล้ว จะมีการตรวจสอบรหัสและแจ้งผลการทำรายการดังกล่าว ผู้ถือบัตรไม่ต้องกังวลว่าผู้อื่นจะทราบรหัสผ่านและนำไปใช้ เพราะเป็นรหัสที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ทั้งยังสะดวกขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องจำรหัสผ่านเหมือนแต่ก่อน ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสามารถลงทะเบียนใช้บริการ VbV OTP ได้ในขณะกำลังช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งทำได้ง่ายและสะดวกสบาย

สำหรับรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) ทาง SMS นี้ ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารแรกที่นำมาใช้ นอกจากนี้ บริการ VbV OTP ยังสามารถใช้งานร่วมกับบัตรซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย (K-Web Shopping Card) ซึ่งเป็นบัตรเสมือนจริง (Virtual Card) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถช้อปปิ้งออนไลน์ได้อย่างง่ายดายแม้ไม่มีบัตรเครดิต โดยสามารถกำหนดและปรับเปลี่ยนวงเงินการซื้อต่อวันได้ด้วยตนเองตลอดเวลา อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจด้วยอีเมลยืนยันทุกครั้งที่มีการทำรายการ และยังสามารถตรวจสอบรายการใช้จ่ายย้อนหลังผ่านบริการ K-Cyber Banking ได้อีกด้วย ทั้งนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบ VbV OTP ให้ใช้ได้กับบัตรเดบิตกสิกรไทยประมาณกลางปี 2553

นายศีลวัต กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้นำด้านบริการรับชำระค่าสินค้าและ
บริการด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย (K-Payment Gateway) โดยธุรกิจที่ใช้บริการ K-Payment Gateway มีความครอบคลุมในหลากหลายธุรกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งได้แก่ โรงแรม ทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน กลุ่มสินค้าไอที กลุ่มสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งธุรกิจออนไลน์ เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เห็นได้จากการเติบโตของบริการ K-Payment Gateway ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึงปีละกว่า 60% เนื่องมาจากผู้ประกอบการได้เล็งเห็นถึงความสะดวกในการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มาก ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ถือเป็นการขยายฐานลูกค้า และสามารถเปิดตลาดการขายไปได้ทั่วโลก สอดคล้องกับผลการสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ของคนไทยที่พบว่า คนไทยนิยมซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น 63% และ คนไทยอีก 77% เล่นอินเทอร์เน็ตเป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้ เป็นเพราะนักช้อปไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้น นักช้อปเกือบ 90% พอใจในระบบการชำระเงินที่สะดวกสบายและปลอดภัย

ณ ธันวาคม 2552 บัตรเครดิต และบัตร K-Web Shopping Card ธนาคารกสิกรไทยมีการลงทะเบียนกับระบบ Verified by VISA เพื่อช้อปปิ้งออนไลน์ แล้วกว่า 130,000 บัตร ซึ่งมียอดใช้จ่ายออนไลน์กว่า 1,600 ล้านบาท เติบโตจากปี 2551 กว่า 40% อย่างไรก็ตาม หลังจากธนาคารสามารถเปิดให้บริการ VbV SMS OTP กับบัตรเดบิตในเดือนมิถุนายน ซึ่งมีจำนวนบัตรกว่า 5 ล้านบัตร คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดใช้จ่ายได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี

.