ว่าที่ขุนพล ลอรีอัล

ขับเคี่ยวกันมันส์หยด สำหรับการแข่งขัน “Loreal Brandstorm 2007” เวทีแห่งการค้นหานักการตลาดเลือดใหม่ของลอรีอัล ที่จัดขึ้นเป็นธรรมเนียมทั่วโลก ด้วยคอนเซ็ปต์ “Turn ideas into products” ปีนี้นับเป็นปีที่ 4 ของประเทศไทยที่เข้าร่วม (แต่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2536) โดยได้ตัวแทนจากทีม Avivo นักศึกษา จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปชิงแชมป์โลกที่ปารีส หลังฝ่าฟันชนะคู่แข่งอีก 7 ทีม ด้วยความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความจริง

จากโจทย์มหาหินของปีนี้ ที่นักศึกษาทั้ง 8 ทีมต้องทำหน้าที่เสมือนเป็น Brand Manager ของแบรนด์ REDKEN (เรดเคน) for Men แบรนด์สำหรับช่างผมมืออาชีพจาก 5th Avenue NY ที่มีอัตราการเติบโตสูง

นับว่าโจทย์ปีนี้มีความยากขึ้นจากปีก่อน ๆ ถึง 2 เท่า เพราะ REDKEN เป็นแบรนด์ที่ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย ขณะที่ช่องทางการขายมีอยู่จำกัดเฉพาะในร้านซาลอนเท่านั้น หลังจากปีที่ผ่านมาโจทย์เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลเรือนร่างของลังโคม โดยทีมนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคว้าแชมป์ไปครอง

แม้จะเป็นเพียง Busineess Game แต่นักศึกษาที่เข้าร่วมแข่งขันจะต้องลงมือทำงานวิจัยเองในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะ Consumer Insight คาดการณ์เทรนด์ของตลาด เพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์นี้ ซึ่งครอบคลุมถึงการออกแบบแพ็กเกจจิ้งและการสื่อสารการตลาดทั้งหมด

หลังจากการแข่งขันร่วม 3 ชม. ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก็ได้ทีม Avivo เป็นทีมชนะเลิศ คว้าเงินรางวัล 70,000 บาทไปครอง โดยทีมนี้มีสมาชิก คือ พริญญ์ ธนาภิสิทธิกุล ปัณฑารีย์ สุคัมภีรานนท์ และโชติอนันต์ กิตติรวีโชติ
ทั้ง 3 คน พรีเซนต์ไอเดียได้อย่างน่าชื่นชม แม้จะไม่มีพรีเซนเตชั่นที่หวือหวาเหมือนกับอีกหลายทีม แต่บุคลิก ท่วงท่า ลีลา ดูมุ่งมั่น จริงจัง แต่ถ่ายทอดได้อย่างน่าติดตาม ที่สำคัญเบื้องหลังคือไอเดียอันบรรเจิดที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้

โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ของ REDKEN ภายใต้มันสมองของทีมนี้ซึ่งโดนใจคณะกรรมการก็คือ เจลใส่ผม ที่มีคุณสมบัติใส่แล้วไม่ต้องล้างออก เมื่อตื่นขึ้นมาผมก็จะนุ่มสลวยจัดทรงได้ทันที ซึ่งทีมนี้นำเสนอเพียงผลิตภัณฑ์เดียว ขณะที่ส่วนใหญ่จะมีผลิตภัณฑ์มากกว่า นั่นสะท้อนนัยสำคัญบางประการของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ว่า Variety หากไม่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคก็ไม่อาจนำมาซึ่งความสำเร็จได้

ฌอง ฟิลิปป์ ชาร์ริเย่ร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำที่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักการตลาดทุกคนว่า เราสามารถสร้างสรรค์ไอเดีย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง นั่นหมายความว่าสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายได้จริง ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและสามารถทำตามแผนการตลาดได้จริงโดยไม่เพ้อฝัน

Profile

ลอรีอัล เป็น Global Beauty Company เจ้าของแบรนด์กว่า 19 แบรนด์ที่ทำตลาดทั่วโลก เช่น Bioterm, Garnier, Shu Uemura, Giogio Armani, Helena Rubinstein, Kerastase, Lancome และ Maybelline New York และ The Body Shop เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องด้วยตัวเลขปีละ 2 หลัก โดยในปี 2549 ที่ผ่านมา ลอรีอัลทั่วโลกมีผลกำไรกว่า 12.1% ลอรีอัล มี Nestle เป็น 1 ในผู้ถือหุ้นหลัก ด้วยตัวเลขกว่า 27.9%

www.lorealthailand.com