กนกรส พงศทัต สุวรรณสรางค์ เลขาส่วนตัวระดับเวิลด์คลาส

ชื่อของ “นต” หรือ “กนกรส พงศทัต สุวรรณสรางค์” สาวมั่นผู้ขึ้นทำเนียบสาวสังคมไทยมานาน และยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นกับข่าวเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับพระเอกหนุ่มในวงการบันเทิง กาลเวลาผ่าน สาวไฮโซผู้นี้มีบทบาทในการทำงานที่ดูแปลกและน่าทึ่งไม่น้อย คือ การเป็น Social Director ของบริษัท ควินเอสเซนเชียลลี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการ World Class Concierge 24 ชั่วโมง ใน 27 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นบทบาทที่เธอได้นำไลฟ์สไตล์และคอนเนกชั่นที่มีมาใช้ได้อย่างเต็มความสามารถ

ในวันที่นิตยสาร POSITIONING สัมภาษณ์เธอ บทบาทใหม่อีกหน้าที่หนึ่งนอกจากงาน คือการกำลังทำหน้าที่เป็นแม่ ซึ่งเธอกำลังตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกชาย “น้องฮูโก้” ในปลายเดือนสิงหาคม 2550 นี้

ในเบื้องแรกของการทำงาน กนกรสควบตำแหน่ง General Manager ด้วย แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งไปดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวที่กำลังเปิดโปรเจกต์ใหม่เป็นคอนโดมิเนียม ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้สะพานสาทร จึงลดบทบาทเหลือเพียงตำแหน่ง Social Director เท่านั้น

Quintessentially เป็น Pirvate Member Club ที่รับหน้าที่เป็น “เลขาส่วนตัว” ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ทุกด้านของลูกค้าผู้มีอันจะกิน ด้วยหลัก One-on-One Marketing ภายใต้แนวคิด “Accessible in Inaccessible” มี Ben Elliot หลานชายของ Camilla Parker Bowles เป็นเจ้าของ ซึ่งมีคอนเนกชั่นที่แน่นแฟ้นกับ Royal Family ของอังกฤษ ไฮโซ ดาราฮอลลีวู้ด และเจ้าของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก

ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาแล้ว 7 ปี โดยมี Head Quarter ที่อังกฤษ ซึ่งมีลูกค้าระดับโลกของเป็นดาราฮอลลีวู้ดและนักร้องระดับโลก อาทิ มาดอนน่า, เอลตัน จอห์น, แบรด พิทท์ , เจนิเฟอร์ โลเปซ เป็นต้น เริ่มเปิดบริการในไทยเมื่อธันวาคม 2549

กนกรส พงศทัต สุวรรณสรางค์ บอกกับ POSITIONING ว่า “บริการระดับโลก ด้วยคอนเนกชั่นระดับโลก Ben Elliot เป็นเพื่อนกับมาดอนน่า และ เอลตัน จอห์น รวมถึงเจ้าของเพชร คาร์เทียร์ เป็นต้น การได้ร่วมงานด้วยจึงทำให้รู้สึกสนุกและได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่แล้ว เพราะชื่นชอบการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์อื่นๆ เช่น ร้านอาหารเก๋ๆ โรงแรมดีๆ”

เธอถูกส่งไปเทรนอย่างเข้มข้นที่ฮ่องกง ซึ่งเป็น Regional Base กอปรกับ “Value” ในแง่ของคอนเนกชั่นในสังคมที่เธอมี ทำให้วันนี้ Quintessentially ประเทศไทย มีสมาชิกเป็นลูกค้าชั้นดีกว่า 20 ราย

“เราแบ่งสมาชิกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเรียกว่า Dedicate มีค่าสมาชิก 200,000 บาทต่อปี และกลุ่มที่ 2 เรียกว่า Elite มีค่าสมาชิก 1.5 ล้านบาทต่อปี ลิสต์ของลูกค้าส่วนหนึ่งได้มาจากฮ่องกง เพราะเขาจะมีข้อมูลของนักธุรกิจไทยบ้าง สมาชิกปัจจุบันมีส่วนหนึ่งที่เคยเป็นสมาชิกที่อังกฤษ ฮ่องกง และโอนมาที่ไทย สมาชิกแต่ละคนนอกเหนือจะได้รับบริการประดุจเลขาส่วนตัวที่เรียกใช้งานได้ตลอด24 ชั่วโมงแล้ว ยังจะได้รับบริการอื่นๆ อีก เช่น Magazine เพื่ออัพเดตไลฟ์สไตล์ทุก 3 เดือน รวมถึงสมุดภาพโรงแรมและบูติกรีสอร์ตทั่วโลกที่เป็นพาร์ตเนอร์ของเรา”

เป็นที่น่าสังเกตว่าสมาชิกกว่า 20 คน (ที่ไม่อาจเปิดเผยชื่อได้) ของประเภท Dedicate นั้น เป็นนักธุรกิจประเภท Low Profile แต่พวกนี้รวยจริง และชื่นชอบไลฟ์สไตล์คล้ายคลึงกันทั้งท่องเที่ยว กิน ดื่ม และเริงรมย์กับสุนทรียะทางศิลปะต่างๆ เช่น โอเปร่า คอนเสิร์ต และแฟชั่นโชว์ เป็นต้น โดยที่พวกเขาไม่ต้องการเสียเวลามาจัดการเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง เมื่อเทียบกับค่าสมาชิกเฉลี่ยเดือนละ 16,000 บาท พวกเขาเลยไม่ลังเลที่จะจ่าย แม้บางคนจะมีเลขาส่วนตัวถึง 3 คน ก็ตาม แต่โดยมากจะดูแลจัดการเรื่องเอกสาร ตารางนัด อันเกี่ยวข้องกับเรื่องงานเป็นส่วนใหญ่

“สมาชิกกว่า 20 ราย ล้วนเป็นนักธุรกิจที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา อายุยังไม่ถึง 30 – 50 ปีต้นๆ และมีเพียง 2 คนที่เคยปรากฏเป็นข่าวตามหน้าสังคมของหนังสือพิมพ์ และนิตยสารต่างๆ แต่ก็น้อยครั้งมาก นอกนั้นอยู่แบบเงียบๆ พวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัวสูง มีไลฟ์สไตล์ที่ประณีต และไม่มีเวลาจัดการเรื่องไลฟ์สไตล์เหมือนกัน เพราะเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการจัดการเรื่องธุรกิจ”

ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้ขั้นตอนการให้บริการต่างๆ ของ Quintessentially ต้องไม่ยุ่งยาก เพราะจะต้องบริหารเวลาของลูกค้าเกิดประโยชน์สูงสุด การโทรศัพท์มาเพื่อรับบริการ สมาชิกเพียงแค่แจ้งชื่อเท่านั้น โดยไม่จำเป็นจ้องบอกรหัสอื่นๆ แต่อย่างใด

สมาชิกที่เป็นระดับ Elite ซึ่งต้องจ่ายแพงมากกว่า 6 เท่า พวกเขาจะได้รับข้อเสนอพิเศษที่ Dedicate ต้องเป็น Waiting List เช่น ตั๋วเข้าร่วมงาน After Party ของออสการ์ เป็นต้น รวมถึงมีเลขาส่วนตัวในทุกประเทศที่เป็นเครือข่าย โดยสามารถติดต่อเลขาแต่ละคนได้โดยตรง ขณะที่สมาชิกประเภท Dedicate จะมีเลขาส่วนตัวประจำเพียงคนเดียวประจำประเทศนั้นๆ แต่ทั้งนี้ Elite จะต้องเป็น Invitation Only โดยการแนะนำของ Elite ด้วยกันเอง

สิ้นปี้ 2550 นี้ เธอคาดว่า Quintessentially จะมีสมาชิกทั้งหมด 80 คน จากการตั้งเป้ารับสมาชิกเต็มที่ในประเทศไทย 1,000 คน

นอกเหนือจากจะทำงานภายใต้ชื่อนี้แล้ว Quintessentially ยังเป็น Outsource ให้กับลูกค้าระดับพรีเมียมของสินค้าและบริการหลายประเภท เช่น บัตรเครดิต โรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์อีกด้วย

กนกรสเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟังว่า “ลูกค้ามีความคาดหวังสูงเราต้องตอบสนองให้ได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกค้าจะไปทานอาหารที่ภัตตาคารจีนที่ขึ้นชื่อในหมู่คนฮ่องกงเอง แต่มีปัญหาว่าที่ร้านมีแต่ภาษาจีน พนักงานทุกคนไม่พูดภาษาอังกฤษ เมนูก็มีแต่ภาษาจีน ลูกค้าโทรมาบอกเราว่าจะให้ไปทานอาหารที่นั่น ให้จองที่ให้รวมถึงให้เราส่งเมนูที่แปลแล้วไปให้ด้วย เราโทรไปหาเครือข่ายที่ฮ่องกง ให้หาเมนูมาช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่งกลับมาที่เรา เรากำกับเพิ่มเติมเป็นภาษาไทย ส่งให้ลูกค้า เมื่อไปถึงที่ร้านเขาเพียงแค่ชี้นิ้วบนกระดาษก็สั่งอาหารได้โดยรู้ว่าเมนูนั้นคืออะไร”

Limited Edition คืออีกสิ่งหนึ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้โหยหา และแน่นอนว่าต้องเป็นหน้าที่ที่ Quintessentially จะต้องจัดการ

“ลูกค้ากลุ่มนี้มีคอนเนกชั่นอยู่แล้ว เขาอาจจะจองนาฬิกาที่มีเพียง 200 เรือนทั่วโลกได้เหมือนกัน แต่กว่าจะได้ของคือเดือนตุลาคม แต่เราไปตัดมาให้เขาได้ในเดือนพฤษภาคม”

แม้จะมีบางครั้งที่ความต้องการของลูกค้าไม่ได้รับการตอบสนอง แต่กนกรสบอกว่าความต้องการของลูกค้าจะได้รับการตอบสนองด้วยตัวเลือกอื่นที่ใกล้เคียง “เราไม่เคย Say no ลูกค้า แต่จะเสนอตัวเลือกอื่นที่เห็นว่าดีกว่าหรือเท่ากับให้”

ทุกวันนี้เธอยังคงเดินสายออกงานบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ Quintessentially มีส่วนร่วม เพราะบทบาทที่หลากหลาย เธอต้องบริหารให้สมดุล ทั้งบทบาทของนักธุรกิจ ภรรยา และแม่

“ไปปาร์ตี้ ร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น รวมถึงประชุมอัพเดทสถานที่เที่ยว ร้านอาหารใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศอยู่ทุกสัปดาห์ ทำงานที่ออฟฟิศก็เลิกเย็น ต้องกลับบ้านไปทำอาหารอีก แต่ทั้งหมดคือสิ่งที่เราเลือกแล้วว่าชอบและเต็มใจที่จะทำ และก็ต้องอัพเดตเพื่อสรรหาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ นอกเหนือจากข้อมูลที่ได้มาแล้วยังจะต้องไปทดลองใช้บริการเองเพื่อที่จะได้แนะนำให้ลูกค้าได้ถูกต้อง”

กนกรสให้แง่คิดว่าสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจบริการ คือ Service Mind ยิ่งบริการลูกค้านักธุรกิจที่ยอมจ่ายเพื่อซื้อบริการระดับพรีเมียมด้วยแล้ว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ลูกค้าเหล่านั้นจะมีความคาดหวังสูง ส่วนหลักในการทำงานนั้นเธอบอกว่า “ทำงานที่ชอบ จะมีพลังล้นเหลือตลอดเวลา ทำได้เต็มที่ไม่ต้องมีใครบอก โอทีไม่ต้องมีก็ได้ แต่ถ้าให้ทำงานที่ไม่ชอบ จะขาดแรงจูงใจและทำให้ไม่รู้สึกอยากทุ่มเทกับงานนั้น”

Profile

Name กนกรส พงศทัต สุวรรณสรางค์ (นต)
Born 28 สิงหาคม 2515
Education
– ปริญญาโท Marketing Organizational Structure (MSA) มหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐฯ
– ปริญญาตรี Business Administration (Marketing), Koger Williams University
Career Highlight ปัจจุบันเป็น Social Director- Quintessentially ประเทศไทย เคยทำงานที่จีเอ็ม เอ็ม แกรมมี่
Family สามี อูโด้-ธนพัฒน์ สุวรรณสรางค์
Lifestyle ท่องเที่ยว เดินทางทุกแนว ทั้ง Adventure & Luxury