เดิมพันครั้งใหม่ของ มาเก๊า

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากนึกถึง “มาเก๊า” เขตการปกครองพิเศษที่ได้รับการดูแลโดยประเทศจีน ภาพที่ปรากฏขึ้นมาในจินตนาการคงไม่พ้นภาพสีเทาของกาสิโน และเครื่องเล่นเกมในการเสี่ยงโชคหลากหลายรูปแบบขึ้นมาทันที แต่ก็ถึงเวลาที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้ กำลัง “รีแบรนด์” เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเมืองเอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่ได้มีแค่ “กาสิโน”

มาเก๊า เป็นพื้นที่เดียวที่จีนอนุญาตให้ตั้งกาสิโนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการลงทุนและจัดแบ่งให้สัมปทานกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการพนันอย่างเปิดเผย ซึ่งได้แก่ บริษัทกาสิโนของมาเก๊า, บริษัท Sciedade de Jogos de Macao, บริษัท กาแลคซี่ กาสิโนจำกัด และบริษัทกาสิโนจากลาสเวกัส บริษัท วีนน์ รีสอร์ท จำกัด ซึ่งต้องยอมรับว่าการลงทุนของกลุ่มทุนดังกล่าวได้สร้างภาพลักษณ์ความเป็นเมืองกาสิโนให้มาเก๊า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

แต่ตัวแปรสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับมาเก๊า เกิดขึ้นเมื่อจีนได้ลดความเข้มงวดของกฎการท่องเที่ยวภายในบางประการ โดยอนุญาตให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จากบางเมืองที่ถูกพัฒนาเศรษฐกิจแล้วสามารถเดินทางมายังมาเก๊าโดยไม่จำเป็นต้องผ่านกลุ่มทัวร์

ในอนาคตรัฐบาลจีนยังมีแนวโน้มที่จะทำให้ข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมีอิสระมากขึ้นอีกเป็นลำดับ ทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่มาเก๊าเป็นจำนวนมาก ยังไม่นับรวมรายได้จากนักท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียง ที่สามารถเดินทางมาเยือนมาเก๊าภายใน 2-3 ชั่วโมงโดยเครื่องบิน

ถ้าหากเราดูจากแผนที่โดยให้มาเก๊าเป็นจุดศูนย์กลางและตีวงไปยังบริเวณประเทศที่สามารถเดินทางมายังมาเก๊าด้วยเครื่องบินภายใน 3 ชั่วโมง จะเห็นว่าจะครอบคลุมประเทศที่มีกำลังซื้อและเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เป็นต้น

หงายไพ่ “โคไต สตริป”

ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของมาเก๊าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ส่วนแรกคือ คาบสมุทรมาเก๊า ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่เศรษฐกิจมาเก๊าในปัจจุบัน อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า โรงแรมที่พัก และกาสิโน ส่วนที่สองคือเกาะไทปา (Taipa) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินมาเก๊า

ส่วนที่สามคือเกาะโคโรอาน (Coloane) และส่วนที่สี่ คือพื้นที่ที่ถูกถมทะเลขึ้นมาใหม่ เพื่อให้กลายเป็นแผ่นดิน เพื่อเชื่อมเกาะไทปาและโคโรอานเข้าไว้ด้วยกันโดยมีชื่อว่าโคไต สตริป (Cotai Strip) ซึ่งบริเวณนี้จะถูกพัฒนาให้กลายเป็น “ไพ่ใบใหม่” ที่ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนภาพลักษณ์มาเก๊าจากเมืองกาสิโนสีเทาให้เป็นเมืองเอนเตอร์เทนเมนต์เต็มไปด้วยแสงสีและความบันเทิงในระดับโลกที่มีมากกว่ากาสิโน

โครงการพัฒนา “โคไต สตริป” ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากกลุ่มธุรกิจกาสิโนที่ตั้งอยู่ในมาเก๊า ซึ่งต่างก็เล็งเห็นโอกาสต่อยอดขยายธุรกิจในภายภาคหน้าหลังจากที่โครงการพัฒนานี้เสร็จสิ้น

บริษัท ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป คือหนึ่งในบริษัทหัวหอกที่เป็นผู้สนับสนุน และได้สัมปทานในการก่อสร้าง “เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า” บนพื้นที่ กว่า 10.5 ล้านตารางฟุต โดยมีการวาง Positoning ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมด้วยความตั้งใจให้การก่อสร้างครั้งนี้เป็น “ลาสเวกัสแห่งเอเชีย“

ลาสเวกัสแห่งเอเชีย ประกอบไปด้วยรีสอร์ทสุดหรูขนาดยักษ์ พร้อมห้องสวีทกว่า 3,000 ห้อง โดยจำลองสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆ จากคลองเวนิส มีเรือกอนโดลาแบบดั้งเดิม 51 ลำพร้อมคนแจวเรือคอยขับกล่อมร้องเพลงให้ผู้มาพักเสมือนว่าอยู่ที่ประเทศอิตาลี

นอกจากนี้ยังมีโรงแรมชั้นนำของโลก อาทิ โฟร์ซีซั่น, เชอราตัน, เซนต์รีจิส , แชงการีลา, เทรเดอร์, ฮิลตัน, คอนราด, แฟร์มองต์, ราฟเฟิลส์, สวิสโฮเต็ล, อินเตอร์คอนติเนลทอล, ฮอล์ลิเดย์อินน์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สัมปทานและดูแลการก่อสร้างโดย บริษัท ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป ทั้งหมด

ถ้าหากเราคำนวณความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวเฉพาะบริเวณพื้นที่นี้แล้ว จะพบว่าสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 13,200 ห้อง ยังไม่รวมถึงสถานที่การจัดประชุม ห้องจัดนิทรรศการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 1.2 ล้านตารางฟุต

สำหรับรองรับการจัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ โรงหนังที่จุผู้ชมได้ถึง 1,800 ที่นั่ง พื้นที่สำหรับสร้างความบันเทิงระดับโลกที่จุผู้คนได้มากกว่า 15,000 ที่นั่ง สนามกีฬาที่สามารถรองรับการแข่งขันระดับโลก และพื้นที่สำหรับร้านค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกกว่า 350 แบรนด์บนพื้นที่ 1 ล้านตารางฟุต ซึ่งองค์ประกอบทั้งหลายนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดที่ช่วยเสริมให้ “โคไตสตริป“ มีความเป็นพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยวและสันทนาการมากกว่าที่จะมาล่นกาสิโนเพียงอย่างเดียว

กีฬาช่วยได้

หากจะลบภาพสีเทาๆ จากการพนันจะมีอะไรดีไปกว่าการใช้ “กีฬา” มาเติมสีสันช่วยในการประชาสัมพันธ์ เพื่อบอกให้โลกรับรู้ ยิ่งเป็นกีฬาสากลนิยมอย่างฟุตบอล บาสเกตบอล และเทนนิสด้วยแล้ว คงไม่ยากนักที่จะดึงความสนใจให้คนทั่วโลกต้องหันมาจับตาที่มาเก๊าอีกครั้ง

แผนการประชาสัมพันธ์ของ “เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า” จึงมุ่งเน้นเรื่องของการจัดการแข่งกีฬา มากกว่าจะพูดเรื่องการพนัน หรือความใหญ่โตของโครงการ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างสีสันของความเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ใหม่ของมาเก๊า

ทีมฟุตบอลระดับโลกอย่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เลือกมาเก๊าอยู่ในแผนการทัวร์เอเชียประจำปี 2007 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของทีมในการไปเยือนมาเก๊า โดยจะแข่งขันกับทีมสโมสรฟุตบอลเสิ่นเจิ้น ที่มาจากประเทศจีน และ ยังมีการแข่งขันเทนนิสสุดคลาสสิก ระหว่างโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กับ พีท แซมพราซ

นอกเหนือจากนี้ “เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า” ยังจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน บาสเกตบอลเอ็นบีเอ ไชน่าเกมส์ 2007 ทั้งหมดนี้ได้ถูกจัดการแข่งขั้นในพื้นที่ของ “เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า” ทั้งสิ้น ซึ่งหากลองพิจรณาดูแล้วจะเห็นว่า การที่เลือกใช้ฟุตบอลอย่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือการจัดเทนนิสแมตช์พิเศษ ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีแฟนอยู่ทั่วโลก จะสามารถเรียกความสนใจในระดับสากลได้โดยเฉพาะประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในละแวกเอเชียที่ต่างก็รู้จักและชื่นชอบกีฬากีฬาทั้งสองประเภท

แม้กระทั่งการเปิดให้มีการแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอของจีนที่สนามของ เวเนเชี่ยน มาเก๊า ก็สามารถเปิดตลาดกลุ่มเป้าหมายหน้าใหม่ๆ ในชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่ต้องการแค่มาเล่นกาสิโนให้เดินทางเข้ามาได้มากขึ้นอีกด้วย

นับว่าเป็นอีกความพยายามของเมืองเล็กๆ ที่เพิ่มขนาดของผืนแผ่นดิน สร้าง ความบันเทิงหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ภาพลักษณ์ ใหม่ของการเมืองเอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ไม่มีแค่ “กาสิโน” โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นเดิมพัน