“ไม่รักก็เกลียดเลย” คือความเห็นจากนักวิจารณ์ที่เห็นหน้าตาของ “Nokia Prism” …แฟชั่นโฟนคอลเลกชั่นล่าสุดจากโนเกีย เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสำคัญกับ ”แฟชั่น” เป็นพิเศษ (Fashion Conscious)
ในงานแถลงข่าว “Prism Phenomenon” นอกจากจะคลาคล่ำไปด้วยสื่อมวลชนชาวไทย “Party in black” ของโนเกียยังได้รับความสนใจจากสื่อสิงคโปร์ ด้วยเหตุว่าที่ไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่เปิดตัวโนเกียปริซึมครบทั้ง 2 รุ่น หลังมีการเปิดตัวรุ่น 7500 เป็นครั้งแรกในประเทศจีน
ภายในงาน มีแขกรับเชิญเป็นแฟชั่นกูรูจากนิตยสารชื่อดังอาทิ Elle, Lips และ Wallpaper มาร่วมปาร์ตี้ เพื่อต้อนรับดีไซน์ล้ำของโนเกียปริซึม “แฟชั่นย้อนยุค (Retro)” ที่กลับมาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย
“ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือเสมือนหนึ่งกลายเป็น Fashion Accessories“ มร.ไซลาส แกรนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายงานออกแบบโนเกีย เดินทางมาเล่าถึงแนวคิดในการออกแบบโนเกียปริซึมให้สื่อมวลชนไทยฟัง
“โนเกียปริซึม มีลักษณะเด่นอยู่ที่สีดำของตัวเครื่องและงานดีไซน์ของตัวเครื่อง ซึ่งออกแบบโดยใช้รูปทรงสามเหลี่ยม ในการสร้างงานศิลป์ โดยอาศัยการผสมผสานระหว่างรูปทรงเรขาคณิตและเหลี่ยมมุม ซึ่งเป็นลักษณะของศิลปะแนว Modernist“
มร.ไซลาส ฉายสไลด์พร้อมเล่าถึงที่มาของงานดีไซน์ต่อ “ตั้งแต่อดีต รูปทรงสามเหลี่ยม กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายแบรนด์แฟชั่นดัง อาทิ Chanel, Burberry, Prada ฯลฯ”
ในขณะที่ทีมออกแบบของโนเกียเองก็ได้อิทธิพลจากแฟชั่นที่รายล้อมรอบกายมาอีกทอดหนึ่ง “เราได้แรงบันดาลใจทั้งทางด้านรูปทรง รายละเอียดและการดีไซน์แสง มาจากสถาปัตยกรรมแนว Progressive Architect เช่น อาคารเซอร์ นอร์แมน ฟอสเตอร์, ธนาคารแห่งประเทศจีน, ตึกสูงในฮ่องกง, Prada Storeในโตเกียว ร่วมด้วยแรงบันดาลใจเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น, แฟชั่นของคนในยุค ’80, แฟชั่น Bad boy สไตล์ Alexander McQueen, แนวดนตรีแบบ Garage Rock หรือแม้แต่แท่งลิปสติกของ Christian Dior “
คอลเลกชั่นของ Nokia Prism ประกอบด้วยโทรศัพท์ 2 รุ่นด้วยกันคือ รุ่น7500 สำหรับผู้ซึ่ง ”อิง” กระแสแฟชั่น มีลูกเล่นอยู่ที่การออกแบบให้มี ”แถบไฟนีออนด้านข้าง” เหมือน ”คลับบาร์” สมัยใหม่ 7900 สำหรับผู้นำกระแสแฟชั่น (Trend Setter) ด้วยดีไซน์เหลี่ยมเพชรทั้งตัวเครื่อง
นอกจากนี้ 7900 ยังออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยี 3G และสามารถเปลี่ยนไฟหน้าจอและแป้นกดได้มากถึง 49 สี เหมาะกับหนุ่มสาวทันสมัย ซึ่งมั่นใจแม้ใครไม่เห็นด้วย (Even others don’t approve)
ทั้งนี้ “แฟชั่นโฟน” ของโนเกียจะมีการเปิดตัวปีละ 1 คอลเลกชั่น เริ่มตั้งแต่ปี 2004 จากรุ่น “Vanity” ตามด้วยศิลปะชนเผ่าของ “L’Amour Collection1 และ 2” ในปี 2005-2006 และล่าสุดกับ “Nokia Prism” ในไตรมาส3 ของปี 2007 ซึ่งกำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลก
“โนเกีย” แบ่งสินค้าของแบรนด์ออกเป็น 4 กลุ่ม
– Live : ตอบสนองไลฟ์สไตล์ ได้แก่ โทรศัพท์ในกลุ่ม Fashion, Sport, Music
– Connect : สำหรับการใช้ในเชิงธุรกิจ เช่น Series 6
– Archive : เครื่องมือใช้ในชีวิตการทำงาน เช่น E Series
– Explore : ตอบสนองความต้องการครบครัน เช่น N Series
Did you Know?
สามเหลี่ยมเป็นพื้นฐานของรูปร่างและรูปทรงทั้งหมด ไม้เว้นแม้แต่ ”วงกลม” ซึ่งนักศิลปะรู้ดีว่าการจะตัดวงกลมให้เนี้ยบต้องพับกระดาษให้เป็นสามเหลี่ยมเสียก่อน
