ผับอินเตอร์แอคทีฟ

ด้วยการแข่งขันอันดุเดือดของ ”ธุรกิจคลับบาร์” บนทำเลทองย่าน ”เอกมัย-ทองหล่อ” ส่งผลให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ ทั้งหน้าเก่าและใหม่ ต่าง ”เกิดและดับ” สลับกันไปตามแรงฮึดของผู้ประกอบการ แต่ละแห่งต่างพยายามอัพเดตจุดขายใหม่ๆ เพื่อเรียกลูกค้าซึ่ง ”มีกำลังซื้อ” และมีพฤติกรรม ”เฉพาะ” ในการเลือกเฟ้นสิ่งซึ่งแสดงถึง ”รสนิยม” ของตน ควบคู่ไปกับความสุนทรีย์จากการ ”ร่ำสุรา”

หลังเลือกปิดตัวเองไปเป็นเวลาเกือบปี เพื่อหลีกหนีความจำเจ วันนี้ “เอสคูโด คลับ” ผับหรูชื่อดังแห่งยุค กลับมาพร้อมกับการค้นพบรูปแบบ ”ความสนุกใหม่” จากการตระเวนหา Reference จากบรรดาบาร์ชื่อดังในประเทศต่างๆ อาทิ อังกฤษ เยอรมัน สวีเดน กระทั่งมาสะดุดใจสุดๆ กับเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) อันมีต้นกำเนิดจาก ”อิตาลี” ซึ่งกำลังระบาดความฮอตฮิตไปทั่วผับบาร์ในแถบยุโรป

แรงบันดาลใจจาก “อินเตอร์แอคทีฟ บาร์” นี้เองได้กลายมาเป็นหนึ่งในไฮไลต์ใหม่ล่าสุดสำหรับลูกค้า วีไอพี ของเอสคูโด ด้วยการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถสื่อสารตอบโต้กันได้อย่างสนุกสนานผ่านหลอดไฟเรืองแสงสีสันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ”การเล่มเกม” ที่มีกว่า 100 รูปแบบ การส่งข้อความหากัน หรือแม้แต่การสื่อสารผ่านกราฟิกระหว่างโต๊ะ

นักเที่ยวสามารถบันดาลสุขจากเทคโนโลยีนี้ได้หลากหลาย เช่น ชายหนุ่มสามารถส่งข้อความไปยังหน้าจอบนโต๊ะของฝ่ายสาวได้โดยไม่ต้องเดินไปขอเบอร์ สามารถทราบชื่อเจ้าของโต๊ะผ่านการล็อกอิน หรือหากอยากโชว์ความสวยหล่อ ก็สามารถส่งรูปของตนเองในโทรศัพท์มือถือขึ้นหน้าจอผ่านระบบ Bluetooth ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ลุคใหม่ของเอสคูโดยังให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม ”ค็อกเทล” ซึ่งกำลังเติบโตในบ้านเรา ด้วยหัวหน้าทีมอิมพอร์ตชาวสวีเดน ร่วมกับจุดแข็งเดิมของร้าน อย่างแนวเพลงและดีเจระดับอินเตอร์

การ Renovate เอสคูโดในครั้งนี้ “วรวุฒิ บุญทิม” เจ้าของและผู้ก่อตั้งเอสคูโด้มากว่า 8 ปี ลงทุนด้วยงบประมาณรวม 30 ล้านบาท โดยแบ่งเงินลงทุน 7 ล้านบาทแรกสำหรับงานอินเตอร์แอคทีฟบาร์ โดยฝีมือทีมนักออกแบบไทยที่สร้างสรรค์งานอยู่ในอิตาลี อีก 13 ล้าน สำหรับการออกแบบ-ตกแต่งใหม่ และการสื่อสารการตลาด

วรวุฒิ กล่าวว่า ด้วยความที่ลูกค้าของ Escudo เป็นระดับเอ กว่า 50% และ Positioning ที่ชัดเจนของร้าน ทำให้ไม่ค่อยมีคู่แข่ง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่หยุดนิ่งในการรักษาความเป็นผู้นำตลาด

เอสคูโด ฉบับปรับปรุงใหม่ ยังคงอาศัยพื้นที่ ”แนวดิ่ง” ของตึก Dutchess Plaza จำนวน 3 ชั้น 3 โซน ตามเดิม โดยใช้ประเภทของดนตรีในการแบ่งโซน ได้แก่ ดนตรีสด ฮิพฮอพ และ Soulful & Progressive Bar (สำหรับเหล่า VIP) ภายใต้ชื่อว่า “เอสคูโด คลับ” โดยเมื่อเปิดให้บริการจะสามารถจุคนได้ถึง 2,200 คน เรียกได้ว่ารองรับการจัดคอนเสิร์ตขนาดย่อมได้เลยทีเดียว

“วรวุฒิ บุญทิม” เป็นเจ้าของผับและร้านอาหารระดับกลาง (ชื่อดังหลายแห่ง ได้แก่ เอสคูโด คลับ, สองสลึง และบุรีธารา ขณะเดียวกันเขาเตรียมเปิดตัวกิจการถนัดอีก 2 แห่ง คือ
– ผับบนถนนเอกมัย ชื่อเดียวกับสุนัขดุพันธุ์ “Pitbull”
– ร้านอาหารบนถนนอักษะ ชื่อ “The Raya” เน้นครอบครัวรุ่นใหม่หัวใจ ”วัยรุ่น” ,“hi-end”กว่าบุรีธารา ด้วยทุกที่นั่งซึ่งอยู่ในน้ำ และต้องพายเรือเพื่อไปรับประทานอาหาร