ลงทุนขนผู้สื่อข่าวไปร่วมเป็น ”สักขีพยาน” ไกลถึงเกาะสมุย กับงาน “Dealer Conference” ที่ LG เปลี่ยนนโยบายใหม่ ด้วยการลงไปจัดงานสัมมนาประจำปีกันถึงถิ่นเป็นครั้งแรก แทนการให้ตัวแทนเดินทางมาร่วมงานในกรุงเทพฯ เฉกเช่นทุกปี
ด้วยนโยบายใหม่ของ LG ที่เปลี่ยนจากการ ”รวมศูนย์” อำนาจการบริหารการสั่งการจากกรุงเทพฯ เป็นวิธีกระจายอำนาจไปสู่ระดับภูมิภาค ด้านหนึ่งเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด “LG : Friendly and Reliable Brand” ที่มุ่งหวังสร้างความเป็นมิตรระหว่างแบรนด์กับผลิตภัณฑ์ และ ผู้บริโภคกับดีลเลอร์ เพื่อนำไปสู่ความเชื่อมั่นในแบรนด์ LG
มร.ซอง นัก กิล กรรมการผู้จัดการบริษัท LG Electronics (Thailand) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การกระจายอำนาจของแอลจีไทยว่า ได้มาจากกรณีศึกษาของ “LG อินเดีย” ซึ่งประสบความสำเร็จในผลิตภัณฑ์ทุกตัว (ยกเว้นโทรศัพท์มือถือ) ที่สามารถเป็นเบอร์ 1 ในตลาดได้ ทั้งนี้เกิดจากประสิทธิภาพในด้าน Operation ด้วยสาขาหลักและย่อยร่วมกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
นำมาสู่การตั้งสาขาในระดับภูมิภาคขึ้น 3 แห่ง ได้แก่ หาดใหญ่ เชียงใหม่ และโคราช (วางแผนสิ้นปีเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง หนึ่งในสองคือภูเก็ต) โดยให้อำนาจผู้จัดการสาขาในการบริหารงานและการวางกลยุทธ์ให้เหมาะกับความต้องการในภูมิภาคนั้นๆ เสมือนหนึ่งเป็น”เจ้าของกิจการ LG” ในระดับภูมิภาค เช่น ภาคใต้ สินค้าของแอลจีได้รับความนิยมเพราะสามารถทนต่อการกัดกร่อนของน้ำทะเลได้ ภาคอีสาน รายได้ต่อหัวค่อนข้างน้อย จึงเน้นสินค้า Mass เช่น เครื่องซักผ้า 2 ถัง เป็นต้น มร.ซองมองว่า อนาคต สาขาจะมีเพาเวอร์ในการต่อรองกับสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด เฉกเช่นเดียวกับการต่อรองระหว่างแอลจีในประเทศต่างๆ กับบริษัทแม่ในเกาหลี
ทั้งนี้ สินค้าที่ LG จะนำเข้ามาทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าพรีเมียม ระดับ ”ไฮเอนด์” ด้วยกำลังการซื้อของคนในกลุ่มนี้ที่ไม่ตกลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็น LCD TV รุ่น “Time Machine II” ซึ่งสามารถอัดรายการทีวีได้ด้วยฮาร์ดดิสก์ภายในตัว, LCD TV รุ่น “Pearl Black” ที่มีกรอบจอสีดำเงางาม, “LG Chocolate Sound” เครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์ที่มีดีไซน์เช่นเดียวกับ Chocolate Phone, ตู้เย็น “Side by Side” ซึ่งมีมือจับเป็นคริสตัลจาก Swarovski, เครื่องซักผ้า LG Steam Direct Drive, เครื่องปรับอากาศ LG Art Cool, เตาไมโครเวฟ LG SolarDom, LG Kompressor เครื่องดูดฝุ่นเทคโนโลยีใหม่กับการบีบอัดฝุ่น, โทรศัพท์มือถือ LG Shine และ Prada Phone เพื่อเจาะตลาดมือไฮเอนด์มีส่วนแบ่งอยู่ราว 20%
ทั้งนี้ สินค้าในกลุ่มไฮเอนด์ดังกล่าวทุกตัวได้รับโจทย์การออกแบบให้เป็น ”เฟอร์นิเจอร์ชิ้นงาม” สำหรับการตกแต่งภายในบ้าน โดยการใช้ ”สีแดงไวน์” เพื่อสื่อถึงความหรูหรามีรสนิยมเสมือนสีของไวน์ร่วมกับสีดำ
นอกจากแผนการออนทัวร์ดีลเลอร์ในภูมิภาคอีก 2 แห่งที่เหลือ คือ หัวหินและเชียงใหม่ LG ได้สร้างกิจกรรมการตลาดด้วยการโรดโชว์ในลักษณะของคาราวานสินค้า เช่น การใช้ “Shine Angel” เพื่อโปรโมตสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือซึ่ง LG ไม่ค่อยถนัด นอกจากนี้ LG ยังมีแผนรุกตลาดด้วยการใช้ระบบ “E-commerce” เพื่อการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าบนเว็บไซต์ซึ่งยังไม่แพร่หลายในเมืองไทยมากนัก
Did you know?
LG และ Samsung เป็นเพียง 2 บริษัทที่มีโรงงานผลิตเทคโนโลยี ”ทีวีจอแบนแบบบาง” โดย LG มี 2 รุ่น คือ Super Slim และ Ultra Slim ขณะที่ Samsung ใช้ชื่อการค้าของจอทีวีดังกล่าวว่า Slim Fit TV