Learning House ของทรู

“ทรูไลฟ์สาขาสยาม” เป็นจุดนัดพบที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนและนักศึกษา จนกลายเป็นที่ Gang up อีกแห่งหนึ่งของวัยรุ่น ทว่า หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดทรูจึงเลือกเปิด “โรงเรียนสอนภาษาจีน” ภายในบริเวณ “ร้านขายกาแฟ” ของทรูไลฟ์ สาขา”สยามสแควร์”

“ความน่าจะเป็น ”ทางธุรกิจที่ดูไม่สอดคล้องกันในความคุ้นชินของสังคม ได้รับการเปิดเผยจากปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ในเหตุที่ว่า ทรูมีวิสัยทัศน์ของการเป็น “Knowledge Provider” เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิต (Lifestyle Enable) ให้ครบทุกด้าน

“Truelife Community” ซึ่งประกอบไปด้วยการให้บริการอินเทอร์เน็ต ร้านกาแฟ และPayment Counter คือสิ่งที่ทรูสร้างขึ้นเพื่อเป็น Third Place ซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนหนึ่งการใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน ทว่ายังขาดสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งสำหรับการเติมเต็มการใช้ชีวิต นั่นก็คือ ”การเรียนรู้”

“Learning House“ หรือ”การสร้างชุมชนการเรียนรู้” จึงเกิดขึ้นภายใต้โจทย์ดังกล่าวของทรู ขณะที่ “คอร์สเรียนภาษาจีน” คือหนทางแห่งการเริ่มต้น ให้เกิดความรู้สึกที่ว่า การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นในอาณาบริเวณของทรูได้ นับเป็น “Educational Lifestyle” เพื่อสร้าง Value ให้กับธุรกิจทรูในระยะยาว

โดยคอร์สเรียนภาษาจีนดังกล่าวจะเป็น”สะพาน” ไปสู่การเป็น “Learning House” ของทรูอย่างเต็มรูปแบบ โดยอาศัยพื้นที่ “สยามสแควร์” ซึ่งเป็นศูนย์รวมทั้งองค์ความรู้อันหลากหลาย และกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกับวิสัยทัศน์ดังกล่าวมากที่สุด

Learning House “ต้นแบบ” ของทรู อันเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ”มหาวิทยาลัยอัสสัมชัน” (ABAC) ประกอบด้วย

Quick Chinese หรือคอร์สสอนภาษาจีนแนวใหม่ เป็นการเรียนแบบ Conventional Way คือให้ผู้เรียนได้สื่อสารกับผู้สอนจากมหาวิทยาลัยชิงหัวโดยตรง ในรูปแบบที่ให้ชาวต่างเข้าใจภาษาจีนได้ง่ายที่สุด โดยไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการใช้อินเทอร์เน็ตหรือเทคโนโลยีที่เป็นทรัพยากรหลักของทรู

เหตุที่เริ่มจากหลักสูตรทางด้านภาษาก่อนนั้น ปพนธ์กล่าวว่า ”อยากให้เริ่มจากทักษะฟัง พูด อ่าน เขียนก่อน เนื่องจากเป็นทักษะเพื่อการสื่อสาร หากขาดทักษะนี้ถึงจะเก่งอย่างไร ก็ไม่สามารถถ่ายทอดความสามารถในด้านอื่นได้”

ส่วนเหตุที่เลือกการสอน ”ภาษาจีน” นั้น เป็นเพราะภาษาจีนเป็นภาษาที่คนสนใจเรียนมากเป็น ”อันดับสอง” รองจากภาษาอังกฤษ ประกอบกับทรูเองกำลังขยายฐานไปยังประเทศจีน ทำให้มีโอกาสพบปะกับพันธมิตรที่ดีในจีนหลายๆ ด้าน

“ความน่าเชื่อถือ” คือองค์ประกอบสำคัญของการเป็น Knowledge Provider ที่ดี ทรูจึงตั้งคำถามว่าทำอย่างไรให้ความเป็นร้านกาแฟมีน่าเชื่อถือในเรื่องการให้ความรู้ ครั้นจะไปร่วมมือกับสถาบันสอนภาษาก็มีหลายแห่งจนไม่สามารถมั่นใจในคุณภาพการสอนได้ จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเอแบค ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับแห่งหนึ่งของเมืองไทย และมหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นสถาบันอันมีชื่อเสียงในจีน โดยเอแบคทำหน้าที่จัดสอบเพื่อประเมินผลให้ผู้เรียน และนักศึกษาเอแบคสามารถนำไปใช้เทียบโอนหน่วยกิตในวิชาภาษาจีนระดับ 1 ได้ทันที ยิ่งเป็นการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียนระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ ทรูไลฟ์ สยามสแควร์ กำลังถูกกำหนดให้เป็น ”สัญลักษณ์” ทางด้านการเรียนรู้ที่ ”ไม่เครียด” กล่าวคือ เมื่อหมด 3 ชั่วโมงของการเรียน ยังมีบรรยากาศอื่นๆ ที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งชิลด์ๆ รอเพื่อน รับประทานของว่างเบาๆ หรือใช้บริการอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกันกับสาขา ”ทองหล่อ” ซึ่งทรูพยายามสร้างให้เป็นคอนเซ็ปต์ของ ”ดนตรี” โดยเริ่มด้วยการจัดคอนเสิร์ต กระทั่งในภายหลัง ทุกการเปิดตัวศิลปินของทรู ก็จะจัดขึ้นที่ทรูไลฟ์ ทองหล่อ ส่วนสาขา ”สยามพารากอน” มีการเปิดตัวหนังสือ และ Workshop จัดดอกไม้ เพื่อความมุ่งหมายให้เกิดอีเวนต์ในลักษณะเดียวกันต่อไปในอนาคต

e-Learning เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่จะต่อยอดมาจากคอร์สในห้องเรียน ด้วยเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ตในรูปแบบ Interactive ระหว่างผู้ใช้กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ที่ร้านทรูทุกสาขา ด้วยความพร้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้จะเริ่มจากหลักสูตรทางด้านภาษาจำนวน 7 ภาษาเป็นการนำร่องก่อน

Digital Library ในแต่ละปี เอแบคมีการลงทุนมหาศาลสำหรับการ ”ซื้อความรู้” มาเก็บไว้ใน Digital Library ของหาวิทยาลัย ทรูเองมองเห็นโอกาสของการสร้างสังคมการเรียนรู้ให้สมบูรณ์แบบ จึงได้ซื้อลิขสิทธิ์จากเอแบคเพื่อให้ลูกค้าของทรูคาเฟ่ที่ไม่ได้เป็นนักศึกษาเอแบค สามารถซื้อสิทธิ์การเป็นสมาชิกเพื่อการค้นคว้าหาข้อมูลใน Digital Library ได้ ซึ่งจะมี Thesis, Case Study, และ Research จากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

การขยายสาขาของทรูไม่ว่าจะเป็นในส่วนงานของบริษัทเอง หรือการขายแฟรนไชส์ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ “การขยายความรู้” ไปยัง Community นั้นๆ สิ่งสำคัญที่ต้องทำ การสร้าง”ต้นทาง”หรือก็คือหลักสูตรภาษาที่เพิ่งเริ่มเปิดสอนให้น่าเชื่อถือ และมีคุณค่าอย่างแท้จริง จึงจะเป็นการสร้าง Value ที่ดี กระทั่งนำไปสู่ ”ปลายทาง” ของการเป็น Learning House ที่ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต

ล้อมกรอบ คอร์สภาษาจีนขั้นต้นใช้เวลาเรียน 72 ชั่วโมง ราคา 11,380 บาท ใช้วิธีการสื่อสารโดยภาษากาย ซึ่งเป็นรูปแบบการสอนที่สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องใช้ภาษาประจำชาติในการถ่ายทอด