ว่ากันว่าหากคนทั้งกรุงเทพฯไม่ว่าจะอยู่ลาดปลาเค้า หนองจอก บางกระบือ ฯลฯ แต่งตัวได้เหมือนกับผู้คนที่เดินไปมาในสยามสแควร์แล้วละก็ นั่นแหละกรุงเทพฯ จึงสมควรที่จะได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งแฟชั่นโดยแท้จริง
คนที่จะมาเดินที่นี่ถ้าไม่เก๋ ไม่แรง แต่งตัวไม่อินเทรนด์ มาแล้วดับ เพราะวัยรุ่น Wanna be ต่างรู้งาน รอแจ้งเกิดกันอยู่ทุกโมงยาม และการเช็กเทรนด์แฟชั่นว่าเทรนด์ไหนอินเทรนด์ไหนเอาต์ต้องที่นี่ที่เดียว
มนตร์เสน่ห์หนึ่งที่สยามสแควร์เป็นพื้นที่ช้อปปิ้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็คือ การเป็นเอาต์ดอร์ช้อปปิ้ง บนพื้นที่ขนาดใหญ่ในศูนย์กลางของกรุงเทพฯ การได้มาแสดงตนในพื้นที่แห่งนี้ให้ความรู้สึก “อีกระดับ” จากศูนย์การค้าเอาต์ดอร์ช้อปปิ้งอื่นๆ
สยามสแควร์คือพื้นที่ค้าปลีกปราบเซียน เพราะที่นี่สำหรับเสื้อผ้าแบรนด์เนมไม่ใช่นางเอก เนื่องจากแฟชั่นที่ได้รับความนิยมกลับเป็นแฟชั่นจาก Young Designer ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยคือดาวเด่นของที่นี่ เพราะแม้แต่เพลย์ บอย แบรนด์ แฟชั่น สุดเปรี้ยวก็ต้องโบกมือลาสนามปราบเซียนไปแล้ว ขณะที่เหลืออยู่ก็รองรับนักท่องเที่ยวเสียส่วนใหญ่มากกว่าจะเป็นวัยรุ่นสุดแนว
ลาคอสท์ นอติก้า เซอรูติ ยืนเรียงรายอยู่ในสยามสแควร์ ขณะที่แบรนด์เล็กแบรนด์น้อยที่เกิดจากฝีมือคนไทยบ้างก็รวมกลุ่มกันอยู่ใต้ลิโด บ้างก็อยู่โซนบายพาส และมีไม่น้อยที่กระจัดกระจายไร้ระเบียบ แม้จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นถนนช้อปปิ้งของฮ่องกงกลายๆ แต่ด้วยความไม่สมบูรณ์ดังกล่าวทำให้ภาพของการช้อปปิ้งที่สยามสแควร์ไม่เต็มที่เท่ากับเมืองแฟชั่นอื่นๆ ของโลก
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจแฟชั่นที่นี่ก็เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ ที่ผสมผสานระหว่างร้านค้ายุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีความต่างกันอย่างสุดขั้ว เราจะเห็นร้านอย่างคิคูย่า ผู้ประกอบการเก่าแก่ยังคงยืนหยัดขายผ้าเมตรที่นี่ได้อย่างยาวนาน แม้จะมีสาขาที่พาหุรัด สำเพ็ง แต่สยามสแควร์ก็ยังคงเป็นอีกสาขาหนึ่งที่มีลูกค้าประจำแวะเวียนมาไม่ได้ขาด ขณะเดียวกันร้านวัยรุ่นสุดเปรี้ยวอย่าง แฮปปี้ เบอร์รี่ ซึ่งเป็นร้านเสื้อผ้าวัยรุ่นที่ได้รับการโปรโมตผ่านสื่อมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของเจ้าของซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นสุดเปรี้ยวลงขันกันปั้นแบรนด์กันเอง
นอกจากบริเวณใต้โรงภาพยนตร์ลิโดแล้ว โซนบายพาสใกล้กับศูนย์หนังสือจุฬาฯ ก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรไพลิน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บอกกับ POSITIONING ถึงเสน่ห์ของสินค้าแฟชั่นที่สยามสแควร์ว่า เป็นสินค้าที่มีเกรดกว่าที่อื่นๆ ของต้องคัดแล้วคัดอีก เพราะลูกค้าวัยรุ่น รู้มาก อะไรอินเทรนด์ไม่ต้องบอกเขาจะมีข้อมูล ร้านค้าก็ต้องหามารองรับ และผู้ประกอบการที่นี่ไวมาก ของใหม่อัพเดตตามแมกกาซีนญี่ปุ่น เกาหลี ไวมากๆ ส่วนใหญ่เป็นของแอร์โฮสเตสที่หิ้วเข้ามา พวกเด็กมาถึงก็เปิดแมกกาซีนจิ้มๆ เอาเลย รออีก 2-3 วัน มาใหม่ได้ของเป๊ะๆ
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าสยามสแควร์เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนมีฝีมือมา “สร้างแบรนด์” ของตัวเองได้ และแบรนด์แฟชั่นที่ถือกำเนิดจากสยามสแควร์หลายแบรนด์ก็ไปเพิ่มมูลค่าที่ www.pramool.com ก็มี หรือบ้างก็แอบอ้างเอาคำว่า “เสื้อผ้าสไตล์สยามสแควร์” ไปเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของตนที่ขายที่แหล่งอื่นก็มี
คำนิยาม “เสื้อเธอ กางเกงชั้น รองเท้าเรา” กลายเป็นวัฒนธรรมนิยมสำหรับเด็กสยามสแควร์ที่รักแฟชั่นและต้องการเปลี่ยนลุคอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดการแลกเสื้อผ้าและรองเท้าตลอดจนแอคเซสซอรี่ต่างๆ ในระหว่างกลุ่มเพื่อนสนิท
นอกเหนือจากพื้นที่สยามสแควร์จะเป็นศูนย์รวมแฟชั่นอันหลากหลายแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่ถูกตั้งสมการว่า สยามสแควร์ = แฟชั่น ดังนั้น แบรนด์แฟชั่นที่จับกลุ่มวัยรุ่นต่างก็เคยพาเหรดกันมาแสดงแฟชั่นโชว์ที่นี่มาแล้วนับร้อยครั้ง