แบรนด์เสื้อผ้า Esprit เตรียมยกเครื่องธุรกิจใหม่ เน้นขายสินค้าราคาแพงมีคุณภาพแทน

ภาพจาก Shutterstock

Esprit แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง เตรียมยกเครื่องธุรกิจใหม่ หลังจากไม่สามารถสู้กับคู่แข่งในสินค้าประเภท Fast Fashion ได้ และทำให้ต้องปิดสาขาในเอเชียไปมากถึง 56 สาขา ล่าสุดเตรียมขายสินค้าที่มีคุณภาพและมีราคาแพงมากขึ้น 

William Pak ซึ่งเป็น CEO ของ Esprit ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า บริษัทเตรียมเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ หันมาจำหน่ายเสื้อผ้าที่มีคุณภาพที่มีราคาแพงมากขึ้น โดยเหตุผลดังกล่าวจากหัวเรือใหญ่ของ Esprit มองว่าจะทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงในอนาคต

แบรนด์เสื้อผ้ารายนี้ถือเป็นขวัญใจของใครไม่น้อย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Esprit นั้นประสบปัญหาใหญ่ก็คือไม่สามารถที่จะสู้แบรนด์ Fast Fashion ของทวีปยุโรปเช่น H&M หรือแม้แต่ Zara ได้ ขณะเดียวกันตัวแบรนด์เองก็พบกับช่วงเวลายากลำบาก ส่งผลทำให้ต้องปิดสาขาทั่วเอเชียไป 56 สาขา

ล่าสุดแบรนด์เสื้อผ้ารายนี้ได้เปิดร้านแบบ Pop-up Store ที่ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงกลับมาเปิดร้านในฮ่องกงอีกครั้ง ขณะเดียวกัน Esprit ก็ยังเน้นขายเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางหลัก และจะมีการขยายการขายไปยังประเทศจีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย ในช่วงปลายปีนี้ด้วย

นอกจากนี้คอลเลกชันของ Esprit ที่เคยออกปีละ 12 ครั้งจะลดลงเหลือปีละ 4 ครั้ง นอกจากนี้บริษัทจะมีเสื้อผ้าแบบพิเศษที่ได้ร่วมงานกับพาร์ตเนอร์รายอื่นด้วย ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมย้ายสำนักงานใหญ่ที่อยู่สหรัฐอเมริกากลับมาที่ฮ่องกง หลังจากที่ซัพพลายเออร์ของบริษัทอยู่ในเอเชียมากกว่า

CEO ของ Esprit เองยังกล่าวเสริมว่าบริษัทต้องใช้เวลาถึงจะเข้าใจว่าแบรนด์เสื้อผ้าจากฮ่องกงรายนี้ไม่เหมาะสำหรับธุรกิจ Fast Fashion โดยในช่วงที่ผ่านมานั้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Fast Fashion มักถูกวิจารณ์ว่าทำให้สภาวะแวดล้อมแย่ลงจากปริมาณขยะเสื้อผ้า รวมถึงประเด็นอื่นๆ อย่างเช่นการใช้แรงงานตามประเทศต่างๆ ด้วย

แบรนด์เสื้อผ้ารายนี้ก่อตั้งในปี 1968 ในสหรัฐอเมริกา โดย Susie และ Doug Tompkins ก่อนที่ทั้งคู่จะพบกับ Michael Ying นักธุรกิจฮ่องกงในช่วงยุค 1970 ก่อนที่จะกลายเป็นว่าธุรกิจในทวีปเอเชียเติบโตกว่าในสหรัฐอเมริกา จนนำธุรกิจในทวีปเอเชียเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงในปี 1993 และมีการซื้อธุรกิจของ Esprit ในทวีปยุโรปในปี 1996 และจ่ายเงินอีก 150 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อสิทธิในการจำหน่ายสินค้าในปี 2002 อย่างไรก็ดีแบรนด์เสื้อผ้ารายดังกล่าวนี้ประสบปัญหาขาดทุนก่อนจะมีกำไรอีกครั้งในปี 2021