โน้ตบุ๊กออกลาย

โน้ตบุ๊กยุคนี้แข่งกันแค่สเปกและราคาอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องประชันโฉมด้วยสีสันและวาดลวดลายฉูดฉาดจี๊ดจ๊าดดึงดูดคนให้เหลียวหลังกลับมามอง เพราะเป็นหนึ่งใน “แฟชั่นไฮเทค” บ่งบอกตัวตนว่า “คุณคือใคร”

เมื่อเทคโนโลยีตามทันกันได้ทุกแบรนด์ แถมยังต้องไล่บี้ราคากันทุกย่างก้าว ผู้ซื้อควักเงินแค่หมื่นกว่าบาทก็เป็นเจ้าของโน้ตบุ๊กได้แล้ว ยอดขายโน้ตบุ๊กเริ่มมาแรงแซงหน้าพีซี ทว่าภาพลักษณ์โน้ตบุ๊กกลับเหมือนกันไปหมด จึงเป็นโจทย์ให้ผู้ผลิตต้องหา “ช่องว่างทางการตลาด” สร้างแบรนด์ด้วย “ความแตกต่างด้านดีไซน์” เพื่อให้เข้าถึง Segment คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่งต้องการ “ตัวตน” ไม่ซ้ำใคร ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ “โน้ตบุ๊กดีไซน์” เช่นปัจจุบัน

โน้ตบุ๊กสีสันเจาะตลาดใหม่ “ผู้หญิง” และ “คนเบื่อสีดำ”

จุดเริ่มต้นของเทรนด์โน้ตบุ๊กดีไซน์หนีไม่พ้นตลาดต่างประเทศ หลังจากเมื่อหลายปีก่อน Apple ออกรุ่น “เปลือกหอย” (Clamshell) จากนั้น Tulip Ego จากเนเธอร์แลนด์ก็ “หยิบยืม” รูปทรงมาเพิ่มลวดลาย สร้าง “มูลค่าเพิ่ม” เปิดตัวเป็นโน้ตบุ๊กดีไซน์สุด “Luxury” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทว่าในเมืองไทยกลับเริ่มต้นอย่างเชื่องช้า “เปลือกหอย” ของ Apple กลับไม่ฮอตฮิตมากนัก อุปสรรคสำคัญคือราคาที่สูงและมีความเป็น “Niche” เฉพาะกลุ่มคนใช้ Apple มากเกินไป จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว Sony Vaio ออกโน้ตบุ๊กพีซีรุ่น C ด้วยสนนราคาไม่แพงเกินเอื้อมระดับ 4 หมื่นบาท ที่ฮือฮาที่สุดคือสีสันเลือกได้ ประยุกต์จากโน้ตบุ๊ก Apple สีขาวขวัญใจนักศึกษา ผสานกับโมเดลหลากสีของสินค้าคอนซูเมอร์ “กล้องถ่ายรูป” ของตัวเอง จน “แจ้งเกิด” ในตลาดคนรุ่นใหม่ สร้างยอดขายมากกว่าครึ่งของโน้ตบุ๊กทั้งหมดของโซนี่ “ชนะใจ” Segment ใหม่ที่เป็นผู้หญิงด้วยสีชมพู ขณะที่ผู้ชายที่เบื่อสีดำก็ควักกระเป๋าซื้อสีขาวมากขึ้น จน 2 สีนี้มีสัดส่วนการขายรวมกันมากถึง 50% ของรุ่น

ภวัต ตั้งควิวิช ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายสินค้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารของเพาเวอร์บาย บอกว่า “โน้ตบุ๊กดีไซน์” เหล่านี้มียอดขายโตขึ้นกว่าปีที่แล้วประมาณ 20% ซึ่งโตกว่า Segment อื่นในโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์ถึง 30 – 40 % “คิดกันง่ายๆ ว่าในจำนวนยอดขายโน้ตบุ๊ก 1 ล้านเครื่อง โน้ตบุ๊กดีไซน์ขายได้ประมาณ 4 แสนเครื่อง หรือ 40%” ส่งผลให้ แบรนด์ต่างๆ เข็น “โน้ตบุ๊กสีสวย” ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Dell ที่บุกตลาดคอนซูเมอร์อย่างเป็นทางการครั้งแรกด้วยโน้ตบุ๊ก 4 สีหลักจนลูกค้ากรูเข้าไปแย่งจองกันในงานคอมมาร์ทแทบไม่ทัน ขณะเดียวกัน Axioo แบรนด์สิงคโปร์ที่เพิ่งเข้าตลาดไทยสดซิงๆ เน้นขายเฉพาะโน้ตบุ๊กก็ไม่ยอมพลาดเทรนด์นี้ แถมยังกล้าออกสีมากกว่าคนอื่นหนึ่งเท่าตัวเพื่อเอาใจลูกค้าคนรุ่นใหม่สุดๆ “ลวดลาย” ช่วยดันยอดโน้ตบุ๊กพุ่ง

ก้าวต่อไปคือ “หน้ากาก”

ขณะที่หลายแบรนด์คอมพิวเตอร์ชั้นนำห้ำหั่นกันด้วยโน้ตบุ๊กนานาสี อีกฟากหนึ่งหลายค่ายเลือกสร้าง “ความแตกต่าง” วางโพสิชันนิ่งกลางใจคนรุ่นใหม่ด้วยลวดลายของหน้ากาก

จากเทรนด์ “สติ๊กเกอร์ลอกได้ไม่ทิ้งคราบ” ที่ฮอตฮิตในสิงคโปร์และไต้หวันเมื่อ 2 ปีก่อน แบรนด์ไทย SVOA จึงได้จับแนวคิดดังกล่าวเป็นกลยุทธ์สร้าง “โน้ตบุ๊กดีไซน์” สร้างความรู้สึก “พิเศษ” ให้ลูกค้าด้วยบริการสติ๊กเกอร์เลือกลายได้ฟรีเฉพาะคนซื้อโน้ตบุ๊กจอ 14.1 นิ้ว อันเป็นเซ็กเมนต์ที่ห้ำหั่นดุเดือดมากที่สุดในตลาดโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์

นอกจาก SVOA จะร่วมมือกับดีไซเนอร์แล้ว ยังใช้หลักการ “จำนวนจำกัด” กับลวดลาย FIFA World Cup 2006 จนขายดิบขายดี ดันยอดขายโน้ตบุ๊ก SVOA ที่ถือเป็นเพียงแบรนด์ไทย ให้เติบโตพุ่งพรวดถึง 500% สามารถแบ่งเค้กกับยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดต่างจังหวัด แม้ผลลัพธ์จะหมายถึงส่วนแบ่งเพียง 3% ของยอดขายรวมทั้งตลาดโน้ตบุ๊ก แต่สำหรับผู้ผลิตในประเทศการขายได้ 24,000 เครื่องในปี 2007 นับว่าน่าพอใจ และประกาศรุกแคมเปญ “Trendy Notebook” สร้างอิมเมจให้ SVOA มัดใจคนรุ่นใหม่ต่อไป

ด้านเอชพี แม้จะเข้าตลาดดีไซน์ช้ากว่า แต่ก็เล็งตลาดวัยรุ่นไว้นานแล้ว เลือกเจาะ Segment คนชอบดีไซน์แต่ติดแบรนด์ จึงเน้น “ควอลิตี้” ด้วยเทคโนโลยีพิมพ์ลวดลายกราฟิกฝังเนื้อ (Imprint) ดูสมจริงและมีราคากว่าสติ๊กเกอร์ เริ่มจากปล่อย The Dragon โน้ตบุ๊กจอขนาด 20 นิ้ว เจาะตลาดดีไซเนอร์เมื่อปลายปีที่แล้ว ตามติดมาด้วยการเปิดตัว “โน้ตบุ๊กมีลาย” เพิ่มอีก 3 รุ่นไปสดๆ ร้อนๆ สร้างมูลค่าแบรนด์และกระตุ้นยอดขายด้วย “Limited Edition” (“สินค้ามีจำนวนจำกัด”) ใช้ HP Pavilion dv 2800 Artist Edition ที่ปั้น “Culture” ร่วมกับเอ็มทีวีเป็นตัวนำธง สร้างกระแสให้นักศึกษาวัย 16 – 24 ปีจากทั่วโลก 130 ประเทศมาออกแบบ จนได้ลายของผู้ชนะเลิศมาพิมพ์อยู่บนโน้ตบุ๊ก

ในเมืองไทย เอชพีจัด “อีเวนต์” ดนตรีตระการตาที่ Club Culture ถนนศรีอยุธยา นำโดยศิลปินที่กำลังฮอต เช่น โดม ปกรณ์ ลัม รวมทั้งวงสครับ และฟลัวร์ เพื่อสร้าง “ภาพลักษณ์เป็นแบรนด์คนรุ่นใหม่” ซึ่งเอชพีมั่นใจว่ามีตลาดคนรักโน้ตบุ๊กลวดลายอย่างน้อย 30% ของโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์ทั้งหมด จะได้ลูกค้ามากแค่ไหนต้องใช้ความ “จ๊าบจี๊ดโดนใจ” เข้าเจาะตลาด สอดคล้องกับฝั่งผู้จำหน่ายสินค้าในงาน “คอมมาร์ท” ที่ผ่านมา โน้ตบุ๊กดีไซน์ของเอชพีมียอดจำหน่ายน่าพอใจเพราะ “ลวดลายสวยเก๋และสเปกสูง” จับกลุ่มวัยรุ่นกล้าลองของใหม่แต่ติดแบรนด์

ขณะที่หลายค่ายเตรียมบุกตลาดโน้ตบุ๊กทั้งมีสีและมีลายเพิ่มขึ้นแล้ว เอชพีกำลังหาลู่ทางชนะใจคนรุ่นใหม่เพิ่มด้วย “โน้ตบุ๊กเปลี่ยนหน้ากากได้” นอกเหนือจากความพยายามผสมผสานเทคโนโลยีที่ใครๆ จะคาดไม่ถึงว่าจะอยู่บนโน้ตบุ๊กในอนาคต แม้ Acer จะออกมาบอกว่า “ทำได้ตั้งนานแล้ว” ในตลาดไต้หวันก็ตามที อย่างไรก็ดี หากยุค “หน้ากาก” มาสู่ตลาดไทย Acer ย่อมพร้อมสู้เอชพีอย่างแน่นอน

เทรนด์ดีไซน์สเปกสูงเอาใจนักซิ่ง

อีกเทรนด์ที่แตกต่างเติบโตในหมู่ “นักซิ่งรถแข่ง” เมื่อ Acer และ Asus สองยักษ์ใหญ่แห่งไต้หวันฟาดฟันกันด้วยการใช้ “ความเร็วและแรง” เสริมอิมเมจของแบรนด์ ขณะที่ค่าย Acer เริ่มก่อนด้วยการจับมือ “เฟอร์รารี่” (Ferrari) ตั้งแต่ปี 2546 ออกโน้ตบุ๊กจำนวนจำกัด สร้างสเปกสูงสุดเท่าที่เคยมีมา กลายเป็นกลยุทธ์ “สร้างภาพลักษณ์ใหม่” ให้เอเซอร์กลายเป็นแบรนด์ “พรีเมียม” จากที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าราคาถูกมาตลอด ซึ่ง อลัน เจียง จีเอ็มของเอเซอร์ประเทศไทย ยอมรับว่า “เฟอร์รารี่ช่วยให้เอเซอร์กลายเป็นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กในปี 2547” ชั่วระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น

ค่าย Asus มองเห็นโอกาสไม่ต่างกัน เข็น “ลัมโบกินี่” (Lamborghini) เทคโนโลยีสูงสุดเข้ามาเขย่าบัลลังก์ ทั้งคู่ต่างพุ่งเป้าเอาใจผู้ชายกระเป๋าหนัก นักสะสมรถ และชอบเล่นเกม ยินดีจ่ายเงินให้โน้ตบุ๊กที่สร้างด้วยวัสดุเดียวกับรถแข่งแบรนด์ดัง ภายใต้สนนราคาระดับ 8 หมื่น – แสนบาท ซึ่งขณะนี้ Asus ก็ยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เพื่อไล่กวดให้ทัน Acer ที่ประสบความสำเร็จในการออกโน้ตบุ๊กเฟอร์รารี่อย่างต่อเนื่อง เพราะกลายเป็นของสะสมที่คนเพรียกหาไปแล้ว

นับวันต้อง “ดีไซน์” มากขึ้น

เมื่อตลาดคอนซูเมอร์ต้อง “จับใจลูกค้า” ด้านภาพลักษณ์ “เก๋ไก๋” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ยังคงเป็นขุมทรัพย์มหาศาลของปัจจุบันและอนาคต ในจำนวนนี้มักซื้อด้วย “Emotion” (อารมณ์) ทำให้กลยุทธ์การขายคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ต้องมี “Emotional Marketing” ซึ่งเอเซอร์ยอมรับว่าต้องขยันออกสินค้าดีไซน์ใหม่ๆ สร้าง “ความรู้สึกอยากได้” นอกเหนือไปจาก “ความคุ้มค่าด้านสเปกและราคา” ที่ใครๆ ก็ทำกันอยู่แล้ว

แม้ปัจจุบัน Acer จะมีดีไซน์ดำมันวาวอย่าง “Gemstone” ออกทำตลาดเมื่อปีที่แล้วพร้อมเข็นรุ่น “เฟอร์รารี่” สร้างความรู้สึก “สุดเท่” ให้กลุ่มไฮเอนด์ แต่อีกไม่กี่อึดใจก็จะคลอดโน้ตบุ๊ก Gemstone Blue สีน้ำเงินอมดำตามมาในตลาดเมืองไทย เพื่อยั่วยวนคนรุ่นใหม่ให้ต้องควักกระเป๋ากันอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกรณีที่ Fujitsu ออกโน้ตบุ๊ก Golden Pink สีชมพูทองจำนวนจำกัด ก็เป็นความจำเป็นต้องเกาะเทรนด์ “พลังแห่งความงาม” ไปกับเขาด้วย เพราะสมัยนี้ต้องชักชวนให้ลูกค้าซื้อเพียงเหตุผลง่ายๆ

….แค่ “ฉันชอบ” ก็พอแล้ว

Asus บุกเบิกดีไซน์ “กรีน”

นอกจากจะเล่น “ตามน้ำ” ด้วยโน้ตบุ๊กหลากสีสันตัวจิ๋วขนาดจอ 7 นิ้ว แต่เรียกว่า “Eee PC” และออกซีรี่ส์รถแข่ง Lamborghini ทั้งสีดำและเหลืองแปร๋นแล้ว ค่าย Asus ก็เข็นนวัตกรรมใหม่สร้างความฮือฮาในงาน CEBIT 2008 ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยโน้ตบุ๊กทำจากไม้ไผ่เข้ากระแสสิ่งแวดล้อมยิ่งนักด้วย เพราะจะย่อยสลายได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนอื่นๆ ที่หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกไม่ได้ก็จะเน้นพลาสติกที่รีไซเคิลได้ง่าย และมีปุ่มบ่งบอกการใช้พลังงานสอดรับกับวิกฤตพลังงานในปัจจุบัน อีกทั้งพยายามเข้าเทรนด์แฟชั่นมากขึ้นอีกขั้นด้วย “ทางเลือก” แบบมีลวดลาย …แต่จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่สมใจหรือเข้าสู่ตลาดไทยด้วยหรือไม่นั้น เวลาเท่านั้นถึงจะเป็นเครื่องพิสูจน์

โน้ตบุ๊กดีไซน์ในเมืองไทย

Sony
รุ่น Vaio CR35S
ลักษณะเด่น จอ 14.1” มีสีให้เลือก 5 สี
กลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่น วัยเริ่มทำงาน
ราคา (บาท) 42,900
วางจำหน่าย ปี 2549

Acer
รุ่น Aspire
ลักษณะเด่น Gemstone สีดำมันวาว เป็นทางเลือกเพิ่ม
กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วไป
ราคา (บาท) 16,900+
วางจำหน่าย ปี 2550

รุ่น Ferrari
ลักษณะเด่น จอ 12.1” ขายในเมืองไทยเพียง 500 เครื่อง วัสดุจากรถแข่ง Ferrari ด้วยสเปกสูงสุดของโน้ตบุ๊ก
กลุ่มเป้าหมาย คนรักรถ Ferrari นักสะสมและชอบเครื่องที่สเปกสูง ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
ราคา (บาท) 79,900
วางจำหน่าย ปี 2546

Asus
รุ่น Lamborghini
ลักษณะเด่น จอ 15.4“ วัสดุจากรถ Lamborghini เทคโนโลยี Blu-Ray รองรับความละเอียดกราฟิกถึงใจ
กลุ่มเป้าหมาย คนรักรถLamborghini และชอบเครื่องสเปก “แรง” เล่มเกมได้เสมือนจริง ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
ราคา (บาท) 99,000
วางจำหน่าย เมษายน 2550

รุ่น Eee PC
ลักษณะเด่น จอ 7 นิ้ว หนัก 0.92 กิโลกรัม มีให้เลือก 5 สี
กลุ่มเป้าหมาย วัยเรียน วัยรุ่น คนชอบใช้คอมพิวเตอร์ฟังก์ชันง่ายๆ
ราคา (บาท) 10,900
วางจำหน่าย พฤศจิกายน 2550

HP
รุ่น Pavilion 3 รุ่น
ลักษณะเด่น Limited Edition ใช้ดีไซน์ชนะเลิศจาก MTV สร้างความฮือฮา ขณะที่อีก 2 รุ่นลวดลายไม่หวือหวานัก
กลุ่มเป้าหมาย – นักศึกษาวัย 16 – 24 ปีสำหรับรุ่น Artist Collection – คนรุ่นใหม่
ราคา (บาท) 39, 000 – 61, 900
วางจำหน่าย ธันวาคม 2550

SVOA
รุ่น โน้ตบุ๊กทุกรุ่นที่มีจอ 14.1 นิ้ว
ลักษณะเด่น บริการสติ๊กเกอร์เลือกลวดลายได้ เปลี่ยนได้ไม่ทิ้งคราบ
กลุ่มเป้าหมาย นักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ 15 – 40 ปี
ราคา (บาท) 18,900 – 29,900
วางจำหน่าย ปี 2549

Dell
รุ่น Inspiron และ XPS
ลักษณะเด่น จอ 14.1” และ 13.3” มี 4 สีให้เลือก ขาว ดำ น้ำเงิน แดง
กลุ่มเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ 15 – 40 ปี
ราคา (บาท) 20,990 – 37,990
วางจำหน่าย มีนาคม 2551

Axioo
รุ่น Zetta
ลักษณะเด่น จอ 13.3” มี 8 สี
กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการ “ดีไซน์เฉพาะตัว”
ราคา (บาท) 20,900 – 29,900
วางจำหน่าย มีนาคม 2551

Fujitsu
รุ่น Lifebook P8010
ลักษณะเด่น จอ 12.1” สีชมพูทองจำนวนจำกัด
กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มนักธุรกิจหญิงยุคใหม่
ราคา (บาท) 69,900
วางจำหน่าย กุมภาพันธ์ 2551