นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2559 ว่า “บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น โดยมีรายได้สูงถึง 10,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 8,303 ล้านบาท และคิดได้เป็น 19.4% ของเป้าหมาย 53,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทจึงได้ทำการปรับเป้าหมายรายได้ใหม่เป็น 53,000 ล้านบาท จากเดิมที่เคยตั้งเป้าเมื่อต้นปีไว้ที่ 52,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนของรายได้จะมาจากสินค้าในกลุ่มทาวน์เฮาส์ 45% บ้านเดี่ยว 28% และคอนโดมิเนียม 27% ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่รวม 10โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 9 โครงการ และบ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ7,410 ล้านบาท โดยจากแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้งปีอยู่ที่ 60-65 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 50,000-54,000 ล้านบาท โดยเพียงสิ้นไตรมาสที่1 ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Projects) ทั้งหมดอยู่อีก 171 โครงการ มูลค่า 78,691 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวม 25,464 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น Backlog ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 14,386 ล้านบาท
“ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ทำให้รายได้และกำไรสุทธิ เติบโตถึง 23.8% และ 42.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ เนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ของคอนโดมิเนียมหลายโครงการ และจากการที่บริษัทฯ นำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ปรับปรุงกระบวนการทำงาน โดยส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมงานกัน “คิดสร้างสรรค์คุณค่า เพื่อลูกค้า (Create Value)” รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนการก่อสร้าง โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเพื่อส่งมอบบ้านที่ดีมีคุณค่าในแต่ละระดับราคาให้พี่น้องประชาชนสามารถเป็นเจ้าของได้ พร้อมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทฯ ที่วางไว้ ”
ด้าน นายปิยะ ประยงค์ กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจแวลู เปิดเผยว่า“ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลในปี 2559 คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องในอัตรา 8% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 383,183 ล้านบาท โดยจากผลการสำรวจพบว่ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง โดยบริษัทฯ เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ๆ รองรับความต้องการ และมีแผนขยายตลาดในกลุ่มสินค้าต่างๆ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ครอบคลุมทุกเซ็กต์เมนต์มากขึ้น สำหรับตลาดต่างจังหวัดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 28,299 ล้านบาท ถือว่ายังเติบโตอยู่ที่ 11.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นลงทุนในจังหวัดใหญ่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและมีแหล่งนิคมอุตสาหกรรม เช่น ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ”