รู้จัก “ไลฟ์สตาร์” ธุรกิจความงามนอกตระกูลมีเดียของ “อาร์เอส”

แม้ในช่วงระยะหลังอาร์เอสมีทิศทางของธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะโฟกัสธุรกิจสื่อทีวีมากขึ้น จากการทำช่องทีวีเคเบิลและทีวีดิจิตอล ที่ทางอาร์เอสเองก็พอจับทางในการปั้นคอนเทนต์ได้ พร้อมได้ฐานคนดูมหาศาล ทำให้เรตติ้งของช่องทีวีดิจิตอลช่อง 8 เป็นรองเพียงแค่ช่องเวิร์คพอยท์เท่านั้น

แต่ด้วยธุรกิจสื่ออาจจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญอยู่เหมือนกัน ก็ดูเหมือนมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ทำให้อาร์เอสต้องบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านั้นด้วยการแตกไลน์ธุรกิจเพิ่ม ได้บุกตลาดเฮลท์ แอนด์ บิวตี้เปิดบริษัทไลฟ์สตาร์ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท มี 8 แบรนด์ในเครือที่เป็นทั้งสกินแคร์ และอาหารเสริม แต่ได้เน้น 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ มาจีค, กราวีธัส, รีไวว์ และโนเบิลไวท์

1_rs

โอกาสสำคัญที่ทำให้อาร์เอสลงมาเล่นธุรกิจก็มาจากการมีสื่อในมือนั่นเอง เริ่มต้นจากการที่ดูข้อมูลลูกค้าที่ซื้อสื่อโฆษณาพบว่ามีจำนวนไม่น้อยที่เป็นลูกค้ารายย่อย ไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ แต่มีการขายสินค้าผ่านช่องทางคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่เป้นสินค้าสุขภาพ และความงาม ถือว่าเป็นการใช้ช่องของอาร์เอสเป็นช่องทางการขาย อาร์เอสเลยมองว่าเป็นโอกาสสำคัญเพราะมีสื่ออยู่ในมืออยู่แล้ว มีทีมการตลาด เหลือแต่สร้างแบรนด์ สร้างโปรดักต์ขึ้นมา

รวมถึงตลาดสุขภาพและความงามมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี เป็นธุรกิจดาวรุ่งที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีก็ยังเติบโต ในปี 2558 ที่ผ่านมาตลาดผลิตภัณฑ์สกินแคร์มีมูลค่า 65,000 ล้านบาท มีการเติบโต 6-8% ในทุกปี ในยุคนี้ทุกคนลงทุนกับความสวยความงามมากขึ้น

ที่จริงแล้วอาร์เอสได้เริ่มทดลองวางตลาดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 เริ่มต้นจากการใช้พื้นที่ของช่องในการสร้างแบรนด์ และขายผ่านช่องทางคอลเซ็นเตอร์ สามารถสร้างรายได้ภายใน 1 ปี มูลค่า 200 ล้านบาท

2_rs

ในปีนี้อาร์เอสจึงได้ทำการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายช่องทางการขายจากคอลเซ็นเตอร์ สู่โมเดิร์นเทรดและบิวตี้สโตร์ ลงมาเป็นสินค้า FMCG อย่างเต็มตัว พร้อมทั้งลงสื่อโฆษณานอกช่องของตัวเอง และมีพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า ได้แก่ มาช่า วัฒนพานิช, ต่าย เพ็ญพักตร์ และเจมส์ เรืองศักดิ๋

พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเราเริ่มจากการที่มีสื่อในมือ ในปัจจุบันนี้ทุกธุรกิจมีต้นทุนที่สูงที่สุดคือสื่อ และมองเห็นว่าตลาดความงามมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นทุกปี คนให้ให้ความใส่ใจกับสุขภาพและความงามมากขึ้น รวมถึงเป็นการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจสื่อด้วย หลังจากที่ได้ทดลองตลาดมาปีกว่าแล้ว ก็เลยตัดสินใจเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อบุกตลาดอย่างเต็มที่

ในปีนี้ได้ใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท แบ่งเป็นโฆษณา TVC 60% ออนไลน์ 25% และสื่อนอกบ้าน 15%

มีการตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสกินแคร์ 70% แฮร์แคร์ 20% และอาหารเสริม 10% ทำให้คิดเป็นสัดส่วน 15% ของรายได้รวมอาร์เอสในปีนี้ ส่วนอีก 85% เป็นรายได้จากธุรกิจสื่อ โดยที่ในปีหน้าตั้งเป้าสัดส่วนจากธุรกิจความงามอยู่ที่ 30% และในปีถัดไปจะอยู่ที่ 50%

3_rsnew