เฟซบุ๊ก แมนเซนเจอร์ (Facebook Messenger) ประกาศชัย มีผู้ใช้บริการทะลุ 1 พันล้านคนแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ขึ้นแท่นแอปพลิเคชันอันดับสาม ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกอย่างเต็มภาคภูมิ
โดยความสำเร็จครั้งนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จที่รวดเร็วมาก เนื่องจาก Facebook Messenger ใช้เวลาเติบโตเพียงสองปีหลังจากการแยกตัวออกจากแอปหลักอย่าง Facebook เท่านั้น ก็สามารถสร้างยอดผู้ใช้งานได้ในระดับดังกล่าวแล้ว
จากสถิติดังกล่าวยังทำให้บริษัทแม่อย่าง เฟซบุ๊ก ถือครองแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคน เอาไว้ถึง 3 ตัว ได้แก่ แอปหลักอย่าง Facebook ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 1.5 พันล้านคน ตามมาด้วย Messenger และ WhatsApp ที่มีผู้ใช้งานแตะ 1 พันล้านคนแล้วในวันนี้
อ้างอิงจากข้อมูลของ The Independent เผยว่า คู่แข่งที่พอจะสูสีกันกับเฟซบุ๊กในตอนนี้มีเพียง กูเกิลแมปส์ (Google Maps) และยูทิวบ์ (YouTube) เท่านั้น
ขณะที่แอปพลิเคชันแชร์ภาพถ่ายอย่างอินสตาแกรม (Instagram) ซึ่งเป็นของเฟซบุ๊กเช่นกัน ก็กำลังโตวันโตคืน โดยมียอดผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านคนแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊กอาจต้องยอมรับด้วยว่า ความสำเร็จของ Facebook Messenger ในวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความพยายามของเฟซบุ๊กเองที่กดดันอย่างหนักให้ผู้ใช้งานติดตั้งแอป Messenger ในช่วงที่มีการประกาศแยกตัวออกจาก Facebook ซึ่งเป็นแอปหลักของบริษัทใหม่ๆ รวมถึงการตัดความสามารถด้านการแชตออกจากแอปหลักด้วย
ที่น่าสนใจ คือ เฟซบุ๊กมีความพยายามอย่างมากในการผลักดัน Messenger ให้เติบโต ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟีเจอร์ต่างๆ ให้มากมายตลอดระยะเวลา 2 ปี หรือในกรณีล่าสุด ที่รองรับแชตบอต (Chatbot) เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถใช้แชตบอตสื่อสารกับลูกค้าแทนได้ รวมถึงการเปิดตัวผู้ช่วยดิจิตอล “เอ็ม” (M) ที่เริ่มมีการใช้งานในย่านเบย์แอเรีย ซานฟรานซิสโกแล้ว กับการให้เอ็มช่วยสั่ง และส่งดอกไม้ให้ และช่วยจองโต๊ะในภัตตาคารให้ได้ด้วย
โดยสถิติการส่งข้อความผ่าน Messenger ในแต่ละเดือนนั้น เฟซบุ๊ก เผยว่า มีมากกว่า 1 พันล้านข้อความเลยทีเดียว และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่สำคัญ บนแพลตฟอร์ม Messenger ในตอนนี้มีแชตบอตทำงานมากถึง 18,000 ตัวแล้วด้วย
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000072222