แค่มีทาทา ไม่ต้องง้อ TVC

ฟอร์ดปรับแนวคิดของแบรนด์มาเป็น Ford everyday fighting เพื่อสะท้อนความพร้อมของสมรรถภาพของตัวสินค้า ดังนั้นเมื่อต้องการหาพรีเซ็นเตอร์สักคน คนคนนั้นก็ต้องสะท้อนภาพลักษณ์ของฟอร์ดตามแนวคิดที่มีอยู่นี้ด้วย

“เราประกาศแล้วว่าจะใช้ทาทาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับฟอร์ดโฟกัสในงานมอเตอร์โชว์ตอนเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วสำหรับทาทาและฟอร์ดโฟกัส”

สาโรจน์ เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เล่าย้อนอดีตถึงแผนการตลาดของฟอร์ดกับการมีแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในประเทศไทย

ปกติเวลาที่แบรนด์ไหนเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ระดับนี้ ก็มักจะจุดพลุด้วยภาพยนตร์โฆษณาโทรทัศน์ (TVC) แต่ฟอร์ดกลับทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม

เพราะแคมเปญ “ฟอร์ด โฟกัส ทาทา ยัง” ครั้งนี้ ปฏิเสธทีวีซีโดยสิ้นเชิง

“เรามองว่าสื่อที่เราวาง ครอบคลุมที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือคนรุ่นใหม่อายุ 25 ปีขึ้นไปในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักได้ครบ อาจจะมีลงทีวีบ้าง แต่จะเป็นในลักษณะของการตัด MV (Music Video) ของทาทา ไปลงในเคเบิลท้องถิ่น”

การคิดแบบนี้นอกจากเป็นการประหยัดงบโฆษณาทีวีซึ่งต้องใช้ต้นทุนสูงแล้ว การทำแคมเปญผ่านสื่อประเภทอื่น ยังทำให้ฟอร์ดสามารถสื่อสารในรายละเอียดได้มากขึ้นและถี่ขึ้นด้วย

สื่อที่ฟอร์ดเลือกใช้นอกจากสื่อโทรทัศน์ ก็เรียกว่าแทบจะใช้ครบทุกสื่อ ตั้งแต่สื่อวิทยุ รถไฟฟ้า ป้ายโฆษณา เว็บไซต์ นิตยสาร และสื่อที่โชว์รูมได้แก่ ป้ายแบนเนอร์ โปสเตอร์ และวีดีทัศน์

สื่อที่ฟอร์ดภูมิใจมากที่สุดก็คือการ Wrap ตัวรถไฟฟ้า และการได้พื้นที่ป้ายโฆษณาด้านหน้าห้างมาบุญครอง ซึ่งเป็นบิลบอร์ดใหญ่สุดกลางเมืองที่มีแบรนด์ต่างๆ เข้าคิวรออยู่ตลอดเวลา และรายการวิทยุที่มีกลุ่มผู้ฟังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน อย่าง คลื่น Bananas Get Radio และเวอร์จิ้นฮิต

แถมสื่อแต่ละประเภทเป็นเทรนด์ของสื่อที่ผู้บริโภคตอบรับและมีอัตราเติบโตสูงด้วย โดยเฉพาะสื่อบนรถไฟฟ้า ที่เติบโตขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนแรกของปี 2550 เช่นเดียวกับสื่อวิทยุ และเว็บไซต์ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

โทนของโฆษณาที่เห็นทั้งภาพและเสียง จะดึงบุคลิกที่โดดเด่นของทาทา ในแง่ของความมีชีวิตชีวา มีพลัง และทันสมัย หากเป็นภาพนิ่งเน้นให้ดูเหมือนมีความเคลื่อนไหว และเลือกสีที่สอดคล้องกับคีย์แมสเซจ เช่น สีเขียว สำหรับการเป็นรถที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน สีส้ม สีที่เป็นสัญลักษณ์เตือนเรื่องความปลอดภัยบนถนน และสีน้ำเงิน ที่สะท้อนถึงชุดนักแข่งรถที่มีความมั่นใจต่อประสิทธิภาพการควบคุมและขับขี่รถ

ช่วงที่อยู่ระหว่างคิดรายละเอียดของแคมเปญ ฟอร์ดส่งรถฟอร์ดโฟกัส ไปให้ทาทา ทดลองขับ เพื่อกลั่นกรองเป็นคำพูดที่เกิดจากการความรู้สึกในฐานะผู้ขับขี่ตัวจริง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือการให้ซึมซับสมรรถนะของฟอร์ดที่ต้องการให้ทาทาเรียนรู้ให้ลึกซึ้งเสียก่อน

ภาพสะท้อนของทาทา กับฟอร์ด โฟกัส ที่ฟอร์ดต้องการนำเสนอคือความเป็นอินเตอร์ เป็นแรงบันดาลใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ และเป็นคนที่ทำทุกอย่างเต็มที่ ซึ่งสาโรจน์ยืนยันว่า เป็นภาพที่ลงตัวกับฟอร์ด โฟกัสที่สุด

จากนั้นก็เป็นเรื่องของการวางแคมเปญเพื่อสื่อสาร ซึ่งมี 3 จุดเด่นที่ฟอร์ดต้องการสื่อสารผ่านทาทา เริ่มจาก 1-เรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ควบคุมง่ายทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและออโตเมติก 2-เรื่องความปลอดภัย ตั้งแต่ระบบเบรก เข็มขัดและถุงลมนิรภัย คานกันกระแทกด้านข้างไปจนถึงการออกแบบโครงสร้างที่ช่วยกระจายแรงกระแทกออกไปจากตัวห้องผู้โดยสาร และ3-ทางเลือกของเครื่องยนต์ ทั้งเบนซินและดีเซล และแน่นอนรองรับแก๊สโซฮอล์ E10 E20 และเครื่องยนต์ดีเซล

Did you know?

เครื่องยนต์ดีเซล TDCI ของฟอร์ด โฟกัส มีอัตราการใช้น้ำมัน 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร