เทสล่า มอเตอร์ (Tesla Motor) ผู้ผลิตยานยนต์ชื่อดังส่งอัปเดตซอฟต์แวร์ตัวใหม่สำหรับระบบออโต้ไพล็อต (Autopilot System) แล้ว โดยสามารถยุติการทำงานของระบบดังกล่าวได้ในกรณีที่พบว่าผู้ขับขี่ไม่ใส่ใจในการขับรถเพียงพอ
ไม่เฉพาะการปรับในส่วนของระบบออโตไพล็อต อัปเดตซอฟต์แวร์ครั้งนี้ยังรวมถึงการปรับปรุงระบบรับคำสั่งเสียง และระบบเรดาห์ของตัวรถด้วย ซึ่งการอัปเดตซอฟต์แวร์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากเหตุการณ์การเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้ขับรถเทสล่าจนกลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และระบบออโตไพล็อตก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีรายงานว่าเซนเซอร์ของตัวรถเทสล่ามีการวิเคราะห์ผิดพลาด ด้วยการวิเคราะห์สีของรถบรรทุกที่ขับสวนมาว่าเป็นท้องฟ้า ส่งผลให้รถทำการเปลี่ยนเลนจนออกไปชนกับรถบรรทุกดังกล่าว
หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือรถเทสล่าที่ขับโดยชาวจีน และระบบของตัวรถไม่สามารถสื่อสารกับผู้ขับชาวจีนได้ จนทำให้รถเกิดอุบัติเหตุ แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ในอีกทางหนึ่ง การตั้งชื่อระบบว่าออโตไพล็อตก็เป็นสาเหตุของความเข้าใจที่ผิดพลาด เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่เมื่อได้ยินคำว่าออโตไพล็อท ก็จะเข้าใจไปว่า สามารถปล่อยมือออกจากพวงมาลัยได้ในขณะที่รถอยู่ในโหมดดังกล่าว ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ทางเทสล่าพยายามอธิบายว่า ฟีเจอร์นี้เป็นเพียง”ตัวช่วย” ของผู้ขับขี่ (เช่น ใช้กล้อง เรดาห์ในการรักษาระดับความเร็ว สามารถเบรกได้โดยอัตโนมัติ หรือเปลี่ยนเลนได้โดยไม่ต้องรับคำสั่งจากผู้ขับ) แต่ไม่ใช่การเข้าควบคุมการบังคับรถแบบสมบูรณ์แบบ
การอัปเดตครั้งใหม่นี้จะมีการเตือนผู้ขับสามครั้งให้วางมือบนพวงมาลัย หากไม่ทำตาม ระบบการควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ (Automatic Steering) จะหยุดทำงาน และจะไม่กลับมาทำงานอีกเลยจนกว่ารถจะจอด (เวอร์ชันก่อนหน้า หากผู้ขับไม่สนใจ รถจะค่อย ๆ วิ่งช้าลงจนจอดในที่สุด)
ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000095855