บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ประกาศแต่งตั้งผู้บริหาร ฮุย เวง ชอง ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ (President) อีก 1 ตำแหน่ง ควบคู่กับตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ (COO) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559
ภายใต้ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ ฮุย เวง ชอง เพิ่มความรับผิดชอบงานด้านการตลาด การดูแลลูกค้าและบริการ การพัฒนาโครงข่าย รวมทั้งการพัฒนาโซลูชันส์ใหม่ๆ ในการให้บริการดิจิทัล เพื่อ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น
การปรับโครงสร้างของเอไอเอสครั้งนี้นั้น เกิดขึ้นภายหลังจากที่การเปลี่ยนผู้ถือหุ้น เป็นผลมาจากการในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สิงคโปร์ เทเลคอม หรือ สิงเทล ได้ซื้อหุ้น 21% จากบริษัท แอสเพน โฮลดิ้ง (Aspen Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ เทมาเส็ก ที่ถืออยู่ในบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH
ทั้ง สิงเทล และแอสแพน ล้วนแต่เป็นบริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้ง ด้วยกันทั้งคู่
การซื้อหุ้นของสิงเทล ส่งผลให้ สัดส่วนการถือหุ้นของเทมาเส็ก ใน INTUCH ที่เคยมีสัดส่วน 40.50% ลดลงเหลือ 19.5% ในขณะที่ สิงเทล จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน อินทัช ผ่านทางเอสเพนแทน
ที่สำคัญ การซื้อหุ้นครั้งนี้ ส่งผลให้ สิงเทลกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ทั้งทางตรง 23.32% และทางอ้อม ผ่านทาง INTOUCH เพิ่มขึ้นเพื่อเข้ามามีบทบาทในตลาดไทยมากขึ้น
สิงเทล นั้นถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมรายใหญ่ในระดับอาเซียน ที่ผ่านมาได้ เข้าไปลงทุนในบริษัทโทรคมนาคมในอินเดีย รวมทั้งในไทย ซึ่งเป็นตลาดที่ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจาก 4G ที่ผลักดันให้ตลาดสมาร์ทโฟน และการใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นบริการใหม่ๆ ในยุคดิจิทัลเพิ่มขึ้นในอนาคต
เอไอเอสเองต้องเผชิญกับความท้าทาย จากการลงทุนหลายหมื่นล้าน ในการถือครองคลื่นความถี่ 4G มาไว้ในมือ การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี ที่ต้องมีการลงทุน และการทำตลาด ภายใต้บริบทของธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลียนแปลงไป
นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งของที่มาในการปรับโครงสร้าง และการเพิ่มบทบาทการบริหารงาน ของ ฮุย เวง ชอง อดีตผู้บริหารสิงเทล ผู้ซึ่งสำเร็จการศึกษาปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จาก The International Business Education and Research Program จากมหาวิทยาลัย Southern California ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาร่วมงานกับเอไอเอสมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 จนถึงปัจจุบันรวมเป็นเวลาร่วม10 ปี ตำแหน่งล่าสุดของเขาคือ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ (COO) ควบ ตำแหน่ง President ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เช่นเดียวกับ สิงเทล ที่จะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้นอีก