อวสาน Note 7 ทำ “ซัมซุง” กำไรดิ่งฮวบ 30% ในไตรมาส 3

เอเอฟพี – บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ แถลงคาดการณ์ผลกำไรในไตรมาส 3 ปีนี้อาจลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากวิกฤต Note 7 ซึ่งทำให้ยักษ์ใหญ่ไอทีแดนโสมต้องประกาศเรียกคืนสินค้าทั่วโลก และตัดสินใจยุติการผลิตสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้

ผลประกอบการซัมซุงในไตรมาส 3 ถูกประกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (27 ต.ค.) โดยคาดว่าจะมีการอนุมัติขั้นตอนล่าสุดของการถ่ายโอนอำนาจบริหารไปสู่ทายาทรุ่นใหม่ของตระกูล ลี

ผลกำไรของซัมซุงในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.2 ล้านล้านวอน ลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลข 7.3 ล้านล้านวอนในเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และสอดคล้องกับคาดการณ์ที่บริษัทได้แถลงไว้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน หลังมีคำประกาศยุติการผลิตสมาร์ทโฟน Galaxy Note 7 เนื่องจากพบปัญหาแบตเตอรีร้อนจัดจนเกิดเพลิงไหม้

อวสานของ Note 7 ซึ่งซัมซุงหมายมั่นปั้นมือให้มาตีตลาดแข่งกับไอโฟนของค่ายแอปเปิล ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกที่ขึ้นชื่อทั้งในด้านคุณภาพสินค้า และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

คำสั่งเลิกผลิต Note 7 ยังทำให้ธุรกิจสมาร์ทโฟนของซัมซุงเหลือผลกำไรในไตรมาส 3 เพียง 100,000 ล้านวอน ดิ่งฮวบลงมาเกือบ 98 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสก่อนหน้า

ซัมซุง ยืนยันว่า แผนกสมาร์ทโฟนของบริษัทยังมุ่งมั่นที่จะ “เพิ่มยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่นใหม่ๆ รวมถึงฟื้นคืนความเชื่อมั่นของลูกค้า”

ในขณะที่นักวิเคราะห์กำลังประเมินว่าวิกฤต Note 7 จะส่งผลกระทบต่อแบรนด์ซัมซุงมากน้อยเพียงใด บริษัทเองได้คาดการณ์ว่า ผลกำไรใน 2 ไตรมาสหน้าจะลดลงอีกราวๆ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

1

“ธุรกิจสมาร์ทโฟนได้ลงมาถึงจุดต่ำสุด และคงจะฟื้นตัวบางส่วนในไตรมาส 4 โดยเราคาดว่าซัมซุงจะสามารถทำกำไรได้ราวๆ 2 ล้านล้านวอน” เกร็ก โรห์ นักวิเคราะห์จาก เอชเอ็มซี อินเวสต์เมนต์ ซีเคียวริตีส์ ระบุ

“ธุรกิจสมาร์ทโฟนของ ซัมซุง น่าจะฟื้นตัวเต็มที่ช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า พร้อมๆ กับการเปิดตัว Galaxy S8 ในเดือน มี.ค.”

“ซัมซุงสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า แต่ผมคิดว่าพวกเขายังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง แทนที่จะรีบเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พวกเขาควรตรวจสอบปัญหา Note 7 อย่างถี่ถ้วน และชี้แจงความจริงให้สาธารณชนทราบ”

ผู้ใช้ Note 7 หลายพันคนในเกาหลีใต้เตรียมดำเนินการยื่นฟ้องแบบกลุ่มเพื่อเรียกค่าเสียหายจากซัมซุง ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนแห่งหนึ่งถึงกับยุให้ผู้ถือหุ้นซัมซุงโหวตคัดค้านการแต่งตั้ง เจ.วาย.ลี บุตรชายของประธาน ลี คุน-ฮี ขึ้นนั่งบอร์ดผู้บริหารซัมซุงในวันนี้ (27)

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดระบุว่า เจ.วาย.ลี วัย 48 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธาน ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ขึ้นเป็น 1 ใน 9 สมาชิกบอร์ดผู้บริหารซัมซุงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นการปูทางไปสู่การควบคุมอาณาจักรธุรกิจของประธาน ลี ซึ่งนอนโรงพยาบาลมาตั้งแต่ปี 2014 เนื่องจากโรคหัวใจกำเริบ

ซัมซุงซึ่งก่อตั้งและบริหารงานโดยตระกูล ลี ดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงบริการทางการเงิน, โรงแรม, ยารักษาโรค และแฟชั่น

ผลประกอบการของซัมซุงเพียงบริษัทเดียวก็คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 17 ของจีดีพีเกาหลีใต้ วิกฤต Note 7 จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจแดนโสม โดยธนาคารกลางเกาหลีใต้นั้นถึงกับต้องปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีในปีนี้

2
ลี แจ-ยอง หรือ เจ. วาย. ลี บุตรชายของ ลี คุน-ฮี ประธานและผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจซัมซุง

ที่มา : http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000107554