นับเป็นอีกกระแสบนโลกดิจิตอลที่กำลังได้รับความสนใจ คือ “การทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านเครือข่ายของระบบโทรศัพท์มือถือ” หรือที่เรียกว่า Mobile Payments ที่นับวันยิ่งขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และก่อให้เกิดการทำธุรกรรมการชำระเงินยุคใหม่ ส่งผลให้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการในรูปแบบเดิมๆ อาจต้องหมดไป
โดยมี 3 ปัจจัยมาเป็นตัวกระตุ้น 1) การเติบโตของจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและรูปแบบการใช้ชีวิตดิจิตอลที่เพิ่มมากขึ้น 2) โครงข่ายโทรคมนาคมและกระบวนการทำธุรกรรมทางด้านการเงินที่ดีขึ้นและ 3) การผลักดันการใช้ National e-payment หรือระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รัฐบาลพยายามผลักดัน
ด้วยเหตุนี้ Marketbuzzz บริษัทวิจัยทางการตลาดบนมือถือ ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคบนฐานข้อมูลของบัซซี่บีส์ ในหัวข้อ “การใช้มือถือในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่างๆ” เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยสำรวจคนไทยที่ใช้สมาร์ทโฟน รวมจำนวน 2,000 คน ถึงสถานะปัจจุบันของการใช้บริการในการชำระค่าสินค้าและบริการแบบดิจิตอล และสะท้อนให้เห็นว่ามือถือได้ส่งผลต่อวิถีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการชำระค่าสินค้าและบริการอย่างไร
ผลวิจัยพบว่า
- 50% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีการใช้งาน Mobile Payments รูปแบบต่างๆ อยู่แล้ว
- Mobile Banking และ Mobile Shopping เป็นสองรูปแบบที่มีการใช้งานมากที่สุดด้วยจำนวนผู้ใช้มือถือกว่าครึ่งหนึ่งที่ใช้สองรูปแบบนี้ โดย Mobile Banking มีการใช้งานบ่อยครั้งกว่า เฉลี่ยใช้งานกว่า 6 ครั้งต่อเดือน และ Mobile Shopping ใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4 ครั้งต่อเดือน
- มีเพียง 17% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ใช้ Mobile Wallet อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโต พิจารณาจากจำนวนครั้งต่อเดือนที่ใช้ Mobile Wallet เฉลี่ยสูงถึง 5 ครั้ง ซึ่งใช้งานบ่อยครั้งกว่าธุรกรรมการชำระเงินในรูปแบบอื่นๆ ยกเว้น Mobile Banking
- ในจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนใช้บริการเพย์เมนต์ของทรูมันนี่มากสุด
– TrueMoney มีอัตราการใช้งาน 51% ของกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน
– Line Pay มีอัตราการใช้งานอยู่ที่ 30%
– mPay อยู่ที่ 28%
- ในขณะที่ Mobile Wallet ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่สำหรับผู้ที่เคยใช้แล้ว ส่วนใหญ่สูงถึง 96% พบว่าใช้งานง่ายมากและยิ่งง่ายดายมากยิ่งขึ้นหากมี :
– จุดให้บริการที่มากขึ้นและครอบคลุมทุกแห่ง–แสดงให้เห็นว่าเป็นที่ยอมรับ โดยมีจุดให้บริการในหลายพื้นที่
– ระบบการออกใบเสร็จที่ดีขึ้น – ไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จแบบกระดาษ แค่ใบเสร็จบนระบบก็เพียงพอ
– การใช้งานหน้าจอที่มีประสิทธิภาพ – เช่น การทำธุรกรรมแบบแตะและจ่าย (tap and go) รวดเร็วทันใจ
- สำหรับผู้ใช้ Mobile Paymentsจำนวน 2 ใน 3 กล่าวว่า พวกเขาจะใช้ Mobile Payments ในปริมาณเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ครั้งต่อเดือนและอีก1 ใน 3 กล่าวว่า พวกเขาจะใช้ในปริมาณที่บ่อยครั้งมากขึ้น
- ผู้บริโภคที่เคยใช้ Mobile Payments เกือบทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า อุปสรรคในการใช้ Mobile Payments จะลดลง ถ้า Mobile Payments ทำให้การชำระค่าสินค้าและบริการมีความสะดวกง่ายดายมากขึ้น มีทางเลือกในการชำระเงินมากขึ้น สามารถชำระเงินได้ทุกที่ทุกเวลา และรวดเร็วกว่าการชำระเงินรูปแบบอื่น ถึงแม้จะยังมีข้อกังวลอยู่บ้างในเรื่องของระดับความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม 55% ของผู้ใช้ยังเชื่อว่าระดับความปลอดภัยยังอยู่ในระดับสูง
โมบายเพย์เมนต์มาแน่
มร. แกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Marketbuzzzบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นของ Mobile Payments ว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยการใช้สมาร์ทโฟน คนไทยต้องการระบบการชำระเงินแบบทันทีหรือเรียลไทม์มากขึ้น และการใช้มือถือแทนการถือเงินสดหรือบัตรเครดิตเป็นทางเลือกที่สามารถทำได้