เอเซอร์ ประเมินว่าลูกค้ามีความต้ องการที่แตกต่างและรู้ความต้ องการของตนเอง ทำให้เอเซอร์ แตกแบรนด์ย่อยเพิ่มอีก 3 แบรนด์ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดที่ต่างกัน
- ตั้งแต่ไตรมาสสามปีนี้ เอเซอร์ ทั่วโลกได้เพิ่มแบรนด์ย่
อยของผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก อีก 3 แบรนด์ จากเดิมที่มีเพียงแบรนด์เดียวคื อ Aspire คือ 1.Switch โน้ตบุ๊กถอดได้ 2.Swift โน้ตบุ๊กบางเบา ราคาเริ่มต้นไม่สูง และ 3. Spin โน้ตบุ๊ก สามารถหมุนและพับได้ ขณะที่ Aspire ยังคงเป็นแบรนด์สำหรับกลุ่มเอ็ นทรี - เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่
มมองหาโน้ตบุ๊กเครื่องที่ สองและสามมาใช้งาน และส่วนใหญ่รู้ว่าต้องการได้โน้ ตบุ๊กแบบไหนที่ตรงกับความต้ องการของตนเอง - ภาพรวมของตลาดโน้ตบุ๊ก บาง และ เบา เติบโตขึ้นถึง 15% ในปีนี้ แต่ในตลาดกลับมีแต่ผู้เล่นที่
นำเสนอราคาสูง - เมื่อก่อนเอเซอร์ไม่
สามารถทำได้ ด้วยเทคโนโลยีที่ยังแพงอยู่ แต่พอเทคโนโลยีถูกลง เอเซอร์จึงพร้อมรุกตลาดอย่างเต็ มที่ด้วยราคาที่ไม่แพงเหมือนเจ้ าที่มีอยู่ในตลาด
- ภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ปี 2559 เอเซอร์คาดว่าจะมีจำนวนอยู่ที่ 2.4 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีที่แล้ว 3-4% ซึ่งมีขนาดตลาดอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง
- ราคาเฉลี่ยในการซื้อโน้ตบุ๊กยั
งคงที่อยู่ที่ประมาณ 18,000 บาทต่อคนต่อเครื่อง - ไอดีซีระบุว่าไตรมาสสามปีนี้ เอเซอร์ยังคงเป็นผู้นำทั้
งตลาดโน้ตบุ๊กด้วยส่วนแบ่งตลาด 29% และ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 20% - เพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริ
โภคหาข้อมูลทางออนไลน์มากขึ้น ปีหน้าเอเซอร์จะใช้งบการตลาดกั บช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น - เน้นรุกตลาดองค์กรมากขึ้นด้
วยจุดเด่นด้านโซลูชั่น เช่น คลาวด์ เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดและรั กษาส่วนแบ่งตลาดเดิมไว้ เนื่องจากภาพรวมของตลาดจะยั งคงไม่เติบโตมาก