ด้วยเทรนด์ของการดูแลสุขภาพในประเทศไทยยังเป็นที่นิยมอยู่ ทำให้ได้เห็นตลาดฟิตเนส หรือบริการด้านสุขภาพมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งตลาดฟิตเนสเองก็มีทั้งแบรนด์ใหญ่ระดับโลก และแบรนด์เล็กที่เป็นแบรนด์โลคอลในประเทศทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
การแข่งขันมีให้เห็นในทุกระดับตลาด แบรนด์ใหญ่เองก็ลงทุนอย่างหนัก เพื่อให้ได้ฐานลูกค้า และยึดทำเลตามห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก เพราะไลฟ์สไตล์คนไทยนิยมเข้าห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว การที่มีฟิตเนสเข้าไปเปิดในทำเลนี้ช่วยสร้างโอกาสได้มากกว่า
ในขณะที่แบรนด์เล็ก แบรนด์โลคอลในไทยก็เปิดฟิตเนสกันแพร่หลายมากขึ้น เป็นฟิตเนสตามชุมชน ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละพื้นที่ไป และยังมีเทรนด์การเปิดยิมของเหล่าเซเลบริตี้อยู่ ปัจจัยที่ทำให้ตลาดฟิตเนสยังคงเติบโต เป็นด้วยเทรนด์การออกกำลังกายที่ยังคงมาแรงอยู่ วัยรุ่น และเซเลบริตี้หันมาออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้ตลาดตรงนี้ยังมีโอกาสอีกมาก
ประกอบกับข้อมูลการออกกำลังกายของประชากรคนไทยนั้นยังมีอัตราที่น้อยมากมีแค่ยังไม่ถึง 1% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเมื่อเทียบกับต่างประเทศก็ถือว่าน้อยมาก ประเทศสิงคโปร์มีอัตราคนออกกำลังกาย 7% ออสเตรเลีย 15% อังกฤษ 20% และสหรัฐอเมริกา 25%
และมีข้อมูลผู้ใช้บริการของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ฟิตเนสสัญชาติอังกฤษพบว่า คนไทยมีการใช้บริการเฉลี่ยมากกว่าประเทศ อื่นๆ โดยมีการใช้เฉลี่ย 8 ครั้ง/คน/เดือน ในขณะที่ประเทศอื่นมีการใช้บริการเฉลี่ย 4 ครั้ง/คน/เดือน และมีพฤติกรรมชอบเล่นเป็นกลุ่มมากกว่าเล่นคนเดียว
จากโอกาสในด้านต่างๆ ทำให้เวอร์จิ้น แอ็คทีฟยังคงเดินหน้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเตรียมปั้นคอนเซ็ปต์บูติก สตูดิโอ รับไลฟ์สไตล์พรีเมียม ได้เปิดสาขาที่ 5 เป็นสาขาล่าสุดที่เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ด้วยพื้นที่รวม 4,200 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 ชั้น
เวอร์จิ้น แอ็คทีฟได้วางแผนการลงทุนในประเทศไทยที่ 5,200 ล้านบาท เป็นแผนลงทุนในช่วง 5 ปีนี้ (พ.ศ. 2559-2563) และตั้งเป้ามีทั้งหมด 20 สาขา ใช้งบลงทุนเฉลี่ย 300 ล้านบาท/สาขา
แต่การที่จะสู้ในตลาดฟิตเนสที่ผู้เล่นอยู่ในระดับเดียวกันอย่าง “ฟิตเนส เฟิร์ส” และ “วี ฟิตเนส” ที่มีอุปกรณ์ และบริการทุกอย่างแทบจะเหมือนกัน ทำให้เวอร์จิ้น แอ็คทีฟต้องสร้างความแตกต่างที่จะเห็นได้ชัดเจน 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือที่สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์นี้ได้เพิ่มบริการแอ็คทีฟ ครูว์ เป็นบริการออกกำลังกายสำหรับเด็กอายุ 7-15 ปี เพราะด้วยทำเลย่านนี้มีความเป็นครอบครัวสูง จึงให้ครอบครัวมาออกกำลังกายร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นการขยายฐานไปยังกลุ่มเด็กมากขึ้นและปลูกฝังการออกกำลังกาย ทำให้รู้จักแบรนด์ตั้งแต่เด็ก
อย่างที่สองก็คือการพัฒนาฟิตเนสคอนเซ็ปต์ใหม่ รูปแบบบูติก สตูดิโอ จะเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และแห่งแรกของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เพราะมองเห็นเทรนด์ลูกค้าระดับพรีเมียมมาแรง เป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค
คริสเตียน เมสัน กรรมการผู้จัดการ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “การแข่งขันในตลาดฟิตเนสสูงมากในตอนนี้ ได้เห็นผู้เล่นรายย่อยเปิดสตูดิโอเล็กๆ แบบเจาะจงประเภทการออกกำลังกายไป อย่างโยคะ หรือปั่นจักรยาน แต่ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟจะรวมทุกอย่างที่ตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดี การเพิ่มแอ็คทีฟ ครูว์ก็เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง และการพัฒนาโมเดลใหม่ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ตอบรับกับผู้บริโภคคนไทยโดยตรง”
คอนเซ็ปต์บูติก สตูดิโอนั้น เวอร์จิ้น แอ็คทีฟตั้งใจอยากให้เป็นรูปแบบสแตนอโลน หรือทำเลอยู่ที่สำนักงานระดับพรีเมียม เพราะต้องการจับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมโดยตรง เป็นการรวมบริการที่ลูกค้านิยมออกกำลังกายมาทำให้ทันสมัยมากขึ้น อาจจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างช่วงกลางปีนี้
ปัจจุบันเวอร์จิ้น แอ็คทีฟมีผู้ใช้บริการแบบแอ็คทีฟ 15,000 คน สาขาที่มีสมาชิกเยอะมากที่สุดก็คือสาตึกเอ็มไพร์ สาทร จำนวน 5,000 คน ในปีนี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตของสมาชิกอีก 10% หรือมีเพิ่มอีก 7,000 คน และมีรายได้เติบโต 20%