ถ้าเป็นไวโอ้ต้องบางและแพง

แม้โซนี่จะบอกว่าโน้ตบุ๊ก “VAIO” ทั้ง 3 ซีรี่ส์ใหม่ ที่เปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ จะทั้งบาง เบา และออกแบบให้ภาพลักษณ์สะดุดตามากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับการที่โซนี่พยายามจะโปรโมตภาพลักษณ์ของ VAIO เสียใหม่ ด้วยการตัดสินใจเปลี่ยนสโลแกนสำหรับผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กทั้งหมดจาก “No More Bounds” เป็น “Closer to you”

แต่ในความเป็นจริงแล้วการเป็นโน้ตบุ๊ก “ราคาแพง” ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงอยู่และไม่หนีหายไปจาก VAIO โดยเฉพาะ 3 ซีรี่ส์ใหม่ ทั้ง VAIO Z , VAIO SR, VAIO FW ซึ่งโซนี่เพิ่งนำมาเปิดตัว ที่เริ่มต้นด้วยราคาตั้งแต่ 49,900 บาท ไต่ระดับขึ้นไปถึง 99,900 บาทกันเลยทีเดียว

ดูเหมือนโซนี่จะไม่ทิ้งนโยบายขายของมีดีไซน์ พร้อมประสิทธิภาพที่คนยอมรับ และตั้งราคาแพงในระดับที่สะท้อนให้เห็นว่าเป็นสินค้ามี “คุณภาพ” และนับวันโซนี่จะยิ่งตอกย้ำนโยบายนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากยอดขายโน้ตบุ๊กในปีที่ผ่านมา เฉพาะโน้ตบุ๊กที่มีราคา 45,000 ขึ้นไป โซนี่กินส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 60%

ปัจจุบันโน้ตบุ๊กที่มีราคา 45,000 บาทขึ้นไปคิดเป็นสัดส่วน 15% ของโน้ตบุ๊กทั้งหมดในตลาดไทย โซนี่เชื่อว่ายอดขายในปีนี้ของโน้ตบุ๊กกลุ่มนี้จะยังสูงลิ่ว เพราะจากการประเมินสภาพตลาดในกลุ่มพรีเมียม ไฮเอนด์แล้ว โซนี่ยังเชื่อว่าแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวมเลยแม้แต่น้อย กลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อ และมีเงินหนาที่จะจ่ายให้ของแพงและสวยหากต้องตาต้องใจ

เฉพาะฝั่งเอเชียแปซิฟิก โซนี่พบว่า นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังไต่ระดับในหน้าที่การงานของตนเองและกำลังโดดเด่นในวงธุรกิจ กำลังให้ความสำคัญและควักเงินซื้อ VAIO กันเป็นจำนวนมาก หลายคนมองว่าโน้ตบุ๊กราคาแพง บอกยี่ห้อของการเป็นมืออาชีพได้ดี พอๆ กับอัตราของการซื้อเครื่องแพงจากกลุ่มผู้หญิง ที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นเดียวกัน

แถมกลุ่มคนที่มีเงินในกระเป๋าพอที่จะตัดสินใจซื้อ VAIO ยังมีการศึกษาสูง มักจะหาข้อมูลสินค้ามาในระดับหนึ่งก่อนเดินเข้าร้าน และควักเงินจ่ายในทันที ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้โซนี่ออกจะมั่นใจ ปีนี้จะเป็นอีกปีที่โซนี่จะขายของแพงได้ดีเหมือนอย่างที่เคยเป็น

ตลาดโน้ตบุ๊กโตทุกปี
ยอดขายโน้ตบุ๊กปี 2549 560,000 เครื่อง
ยอดขายโน้ตบุ๊กปี 2550 790,000 เครื่อง
ยอดขายคาดการณ์ปี 2551 1,009,000 เครื่อง