จากกระแสข่าวร้อน เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งความดำเนินคดี บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีดารานักแสดงชื่อดัง “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เป็นประธานบริษัท หลังพบว่าให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี–มันนี่) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
มาทำความรู้จักกับเงินอิเล็กทรอนิกส์ Electronic Money หรือ e-Money (อี–มันนี่) มูลค่าเงินที่บันทึกในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้บริการได้ชำระเงินล่วงหน้าแก่ผู้ให้บริการ e-Money เพื่อนำไปใช้ชำระค่าสินค้าบริการได้ตามร้านค้าที่รับชำระโดยไม่ต้องพกเงินสด
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ e-Money มากหน้าหลายตา ไม่ใช่แค่ธนาคาร แต่มีทั้งบริษัทสื่อสาร เกม ทั้งรายเก่า รายใหม่ เพราะต่างก็มองเห็นโอกาสจากการที่ไทยกำลังเดินเข้าสู่ยุคใช้จ่ายผ่านดิจิตอล ไม่ต้องพกเงินสด ไม่ต้องทอนเงินให้ยุ่งยาก รวมทั้งการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ จะทำให้การใช้บริการ e-Money เพิ่มสูงขึ้น
แต่การให้บริการ e-Money ใช่ว่าจะทำได้ทันที จำเป็นต้องขออนุญาตจากทางแบงก์ชาติ เพื่อประกอบธุรกิจบริการ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
– บัญชี ก ใช้ซื้อสินค้าหรือรับบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ขายสินค้าหรือให้บริการเพียงรายเดียว
ยกเว้น ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคโดยไม่ได้แสวงหากำไรจากการออกบัตร เช่น บัตรศูนย์อาหาร บัตรโดยสารสาธารณะ บัตรโทรศัพท์สาธารณะ หรือบัตรชำระค่าผ่านทางสาธารณะ
ปัจจุบัน มีบริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทย่อยของกลุ่ม ปตท. เป็นผู้ได้รับอนุญาตบัญชี ก เพียงรายเดียว
– บัญชี ข เป็นบริการ ใช้ซื้อสินค้า หรือบริการ จากผู้ขายหลายรายภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและบริการเดียวกัน หรือกิจการในเครือ เช่นธุรกิจแฟรนไชส์ปัํ๊มน้ำมันระบบขนส่งมวลชนศูนย์การค้า
ปัจจุบัน มีผู้ขอใบอนุญาต 7 ราย
- บริษท จีพีซีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด
- บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด
- บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด
- บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน)
– บัญชี ค เป็นบริการ ใช้ซื้อสินค้าหรือบริการ จากผู้ขายหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่ และไม่อยู่ภายใต้การจัดจำหน่ายและการให้บริการเดียวกัน เช่น การนำไปใช้ชำระค่าสินค้า/ค่าบริการที่จำหน่ายผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต หรือตามร้านค้าที่รับชำระด้วย e-money
รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money บัญชี ค) ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
- บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด (บริษัทย่อยของกลุ่มทรู เครื่องหมายการค้า TrueMoney)
- บริษัท ทีทูพี จำกัด (เครื่องหมายการค้า DeepPocket)
- บริษัท ทูซีทูพี พลัส (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องหมายการค้า 2C2P)
- บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด (เครื่องหมายการค้า Smart Purse)
- บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (เครื่องหมายการค้า Rabbit)
- บริษัท เพย์สบาย จำกัด (บริษัทย่อยของดีแทค เครื่องหมายการค้า Paysbuy)
- บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เครื่องหมายการค้า บุญเติม)
- บริษัท แรบบิท–ไลน์ เพย์ จำกัด (เครื่องหมายการค้า Rabbit LinePay)
- บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด (เครื่องหมายการค้า MOL)
- บริษัท แอดวานซ์ เมจิคการ์ด จำกัด (บริษัทย่อยของเอไอเอส จำหน่ายบัตรแทนเงินสดวันทูคอล)
- บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด (บริษัทย่อยของเอไอเอส เครื่องหมายการค้า mPAY)
- บริษัท แอร์เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องหมายการค้า AirPay)
- บริษัท ไอพี เพย์เมนท์ โซลูชั่น จำกัด (เครื่องหมายการค้า PayforU)
- บริษัท เฮลโลเพย์ จำกัด (เครื่องหมายการค้า Go!Hub)
เมื่อผู้ให้บริการมีมากหน้าหลายตาซึ่งได้โฆษณาเชิญชวนให้ลูกค้าและร้านค้าใช้บริการด้วยการหาเครือข่ายสมาชิก และให้ผลตอบแทนในอัตราสูง แบงก์ชาติเลยต้องออกมาได้เตือนถึงความเสี่ยงของการใช้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาต
โดยบริษัทที่จะได้ใบอนุญาตได้นั้นจะต้องมีคุณสมบัติและต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกำหนด เช่นต้องมีทุนจดทะเบียนตามกำหนด มีสภาพคล่องทางการเงิน มีการเก็บรักษาเงินที่เติมเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยฝากไว้ที่สถาบันการเงินและแยกบัญชีไว้ต่างหาก และการรักษาความลับของลูกค้า และคืนเงินให้ลูกค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย http://astv.mobi/AmoWxbm