หมัดต่อหมัดบนสังเวียน TV Phone

สังเวียนของ House Brand ร้อนฉ่า ไม่เฉพาะระหว่างค่ายที่ผลิต House Brand ที่ต้องแลกหมดบนสังเวียนเดียวกัน แต่ยังส่งผลให้ Inter Brand ไม่ว่าจะโนเกีย ซัมซุง โมโตโรล่า หรือแม้แต่โซนี่ อิริคสัน เก้าอี้ร้อน นั่งอยู่ไม่ติดที่ได้ดีเหมือนเดิมอีกต่อไป

ว่ากันว่า ไอ-โมบาย ใช้เวลาไม่กี่ปีในการชิงเค้กก้อนโตปีละหลายหมื่นล้านในตลาดมือถือบ้านเรา ขึ้นนั่งแทนเบอร์สอง เบอร์สามสลับกับซัมซุง แบรนด์เกาหลีในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่คู่แข่งอย่าง “phoneOne” House Brand ของเอไอเอส ก็อาศัยความได้เปรียบของการเป็นลูกหม้อเอไอเอส ใช้ Facility แทบทุกอย่างของเอไอเอสในการทำการตลาด พอๆ กับโปรโมตภาพของการ House Brand ของเอไอเอสอย่างเต็มปากเต็มคำ และกำลังหายใจรดต้นคอไอ-โมบายเข้ามาทุกที

โดยยอดขายของ phoneOne ครึ่งปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 300,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท อีกทั้งยังเปิดตัวมือถือถึง 28 รุ่นวางขาย และรุ่นที่ขายดีสุดคือ Series B (Basic Phone)

ในรอบไม่กี่เดือนมานี้ ทั้งสองค่ายต่างเปิดตัว TV Phone หรือมือถือดูทีวีได้มาชนตลาด และชนกันเอง POSITIONING นำมือถือรุ่นดูทีวีได้ทั้งสองค่ายมาเปรียบเทียบกันอย่างจัง และนี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าทำไมทุกวันนี้ Inter Brand ถึงต้องกังวลใจกับ House Brand

หลังจากห่างหายไปถึง 2 ปีเต็ม i-mobile TV 626 ถือเป็นมือถือเครื่องที่สองของไอ-โมบายที่มี TV Tuner หรือสามารถรับสัญญาณทีวีได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าน GPRS โดยงานนี้ไอ-โมบายตั้งใจเปิดตัวก่อนช่วงโอลิมปิกหวังเอาใจกลุ่ม “Olympic Mania” หรือติดละครโดยเฉพาะ

i-mobile TV 626
– มีเสาอากาศดึงออกมา รับสัญญาณทีวีได้ทันทีไม่ต้องผ่าน GPRS
– หน้าจอแบบ TFT 262K ขนาด 2.4 นิ้ว
– กล้อง CASIO HITACHI ละเอียด 3.0 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอแบบ MPEG4 ได้
– เสียงเรียกเข้า MP3 และใช้ลำโพงออดิโอของ Yamaha
– มีวิทยุ FM เล่นเพลง เล่น MP3 ได้ และมี Talking Dictionary แถม
– เชื่อมต่อบลูทูธ (เสียง/ข้อมูล) มีช่อง USB, GPRS และ WAP

ทีวีโฟนรุ่นใหม่ของไอ-โมบาย
•เปิดตัววางขายในไทยด้วยราคาแพงสุดในตู้ของไอ-โมบายที่ 5,990 บาท
•เลือกใช้ชิปเซ็ตสำหรับทีวีโฟนใหม่ดูทีวีได้นาน 3 ชั่วโมงติดต่อกัน
•ขายดีที่สุดในบรรดามือทุกรุ่นของไอ-โมบายที่เปิดตัวในรอบปี้
•หวังขายดีในกลุ่มคนเปลี่ยนเครื่องบ่อย 5-6 เดือนต่อ 1 เครื่องใหม่
•เอาใจกลุ่มวัยรุ่นอายุไม่เกิน 30 ปีด้วยการเลือกกอล์ฟ ไมค์ เป็นพรีเซ็นเตอร์
•ร่วมมือกับช่อง 9 เลือกสนับสนุนละครที่กอล์ฟ ไมค์แสดง และใช้ละครเป็นเพลงเปิดตัวสินค้า
•ไอ-โมบายทำการตลาดจับกลุ่มคนรักเสียงเพลงด้วยการจับมือกับแกรมมี่แถมเพลงเข้าไปในเครื่อง
•พยายามทำให้คนรู้สึกว่าฟีเจอร์ทีวีเป็นของธรรมดาที่พบได้ในมือถือเหมือนเจอฟีเจอร์วิทยุ FM

เว็บไซต์
www.i-mobilephone.com

phoneOne M901
– FM Radio, โปรแกรมเล่นเพลง MP3
– รองรับ TV Tuner (เสาอากาศแยกจากตัวเครื่อง)
– จอแสดงผล 2.83 นิ้ว TFT QVGA SLIM Touch Screen 262K สี
– รองรับการใช้งาน Motion Sensor และการใช้งาน
– เชื่อมต่อผ่าน WAP / GPRS / EDGE รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และการใช้งาน VoIP
– กล้องดิจิตอล 2.0 ล้านพิกเซล พร้อมโปรแกรมเล่นวิดีโอ
– โปรแกรมอัดเสียง และอัดวิดีโอ
– ส่งผ่านข้อมูล ได้ทั้ง USB และ Bluetooth

ทีวีโฟนรุ่นแพงสุดของ phoneOne
•ราคาขายอยู่ที่ 9,990 บาท ตัวเครื่องผลิตจากประเทศเกาหลี
•เป็นหนึ่งใน 3 รุ่นของ TV Phone ที่ phoneOne เปิดตัวทำตลาดไปแล้ว มีฟังก์ชัน IP TV ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของการรับชมทีวี
•รองรับระบบ Triband (GSM 900/1800/1900 MHz)
•Positioning ของแบรนด์ชัดเจน ที่เป็น “โทรศัพท์ในเครือเอไอเอส” จึงใช้ Facility ด้วยการให้บริการหลังการ ณ เอไอเอสช็อป และเทเลวิซทุกสาขา หรือแม้แต่สอบถามรายละเอียดสินค้าผ่านทาง 1175 Call Center ของเอไอเอส
•ซื้อมือถือ phoneOne ได้แถมซิมการ์ดของเอไอเอสฟรี
•มือถือรองรับการเชื่อมต่อไร้สายหลายประเภท โดยเฉพาะ Wi-Fi
•ทำกิจกรรมกับวัยรุ่น เช่นงานรับน้องในมหาวิทยาลัย และงานประกวดการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณา

เว็บไซต์ www.phoneonemobile.com

ต้องยอมรับว่าจุดเด่นของเรื่องราคา ที่ถูกเสียจนน่าตกใจ ทำให้ House Brand มาแรงแซงโค้งในเวลานี้ การที่บริษัทสามารถเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการจากค่ายผู้ผลิตแต่ละราย แล้วนำมาประกอบเป็นเครื่องที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทำให้ต้นทุนด้าน R&D นั้นมีน้อย และนั่นหมายถึงราคาที่ผู้บริโภคเห็นแล้วยอมรับว่า “ถูก”

ตลอดจนการออกแบบให้หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับแบรนด์ชื่อดัง การเจาะกลุ่มคนชอบมัลติมิเดีย เปลี่ยนเครื่องบ่อย ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ซื้อยุคใหม่ที่ไม่ค่อยจะจงรักภักดีกับแบรนด์ เปลี่ยนไปตามความพึงพอใจ ณ ช่วงเวลานั้น ทำให้วันนี้ House Brand แรงจนฉุดไม่อยู่