ฟอร์จูนเนอร์โฉมใหม่ การกลับมาของปาเจโร

อุณหภูมิการแข่งขันตลาดรถยนต์ในบ้านเราเริ่มสูงปรี๊ดจนปรอทแทบแตก แม้ว่าสถานการณ์จะไม่เป็นใจ ทั้งปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และที่สำคัญราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงชะลอการตัดสินใจซื้อช่วงนี้ก็เป็นจังหวะเดียวกันที่หลายค่ายเริ่มพร้อมใจกันกลับมารุกตลาดอีกครั้ง เพราะอย่างไรเสียความต้องการของผู้บริโภคก็ยังคงมีความหลากหลายและต้องการตัวเลือก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงยังมีปะปนอยู่ในตลาด

การเลือกซื้อรถเอสยูวี ลูกค้าส่วนใหญ่จะมองเป็นเรื่องการลงทุนที่คำนึงถึงความคุ้มค่า เพราะให้ประโยชน์ในการใช้สอยที่หลากหลายกว่ารถยนต์นั่งแบบซีดาน ในขณะที่เอสยูวีสามารถให้ความรู้สึกเหมือนขับรถเก๋งได้เหมือนที่ซีดานมี แต่สามารถขับลุยออกนอกเมืองได้แบบสมบุกสมบันแบบที่รถซีดานสู้ไม่ได้

บรรดาค่ายรถยนต์ต่างหาทางรอดปรับเกมรบเปลี่ยนเป็นแผนหนีตาย โดยการเข้าไปแข่งขันกันในสนามต่างเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ที่ส่งโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เป็นรถ PPV (Pick-up Passenger Vehicle) ตีตลาดกลุ่มรถ SUV (Sport Utility Vehicle) ตามมาด้วย มิตซูบิชิ ส่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เจาะกลุ่มรถ SUV หวังกินรวบทั้งสองเซ็กเมนต์เหมือนกัน

ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ได้ถูกปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องความปลอดภัยและความสบายในการขับขี่ เช่น ระบบกระจายแรงเบรก และระบบควบคุมการทรงตัว ซึ่งโตโยต้าพยายามสร้างความแตกต่างจากรถเอสยูวีอื่นในตลาด ด้วยการฉีกรูปแบบของดีไซน์ที่ดูคล้ายรถกระบะ โดยใช้แรงบันดาลใจในการดีไซน์มาจาก รถสปอร์ตอเนกประสงค์ระดับหรูอย่างโตโยต้า แฮร์ริเออร์ ซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องดีไซน์ที่โดดเด่นนั่นเอง

เพื่อตอกย้ำจุดขายที่แตกต่างนี้ ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ยังคงเลือกใช้ดาราดังอย่าง แอ๊ฟ-ทักษอร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ของความหรูหราที่ดาราสาวนิยม เสมือนหนึ่งเป็นการค้นหา ‘เจ้าชายในฝัน’ ซึงเป็นการยกระดับจากเพียงแค่ ‘ชายในฝัน’ ในยุคที่ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกร เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับฟอร์จูนเนอร์รุ่นก่อนหน้านี้

โดยเฉพาะคีย์แมสเสจที่สื่อออกจากภาพยนตร์โฆษณาก็เปลี่ยนไปตามคุณสมบัติของรถด้วยเช่นกัน จาก ‘ความแรง สั่งซ้ายไปซ้าย สั่งขวาไปขวา ควบคุมได้ดังใจ’ เหมือนผู้ชายในคอนโทรลของแพนเค้ก ที่สะท้อนถึงรถยนต์ที่เน้นความแรงแต่ควบคุมได้ง่ายเหมือนรถเก๋ง ก็เปลี่ยนมาเป็น ‘หรูหรานุ่มนวลและพร้อมจะปกป้อง’ เหมือนการค้นหาเจ้าชายในฝันของ แอ๊ฟ-ทักษอร

สำหรับ มิซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต วาง Positioning อยู่ในเซ็กเมนต์รถ SUV แต่ที่จริงแล้วเป็นรถดัดแปลงที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกันกับปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ SS4WD (Super Select 4WD) ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอ็กซีด เพื่อสวมโมเดลรถรุ่นใหญ่และให้มีภาพลักษณ์เหมือนกับรถ SUV

เจาะกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม ที่ชื่นชอบในสมรรถนะรถแข่ง ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์จะมีให้เลือกทั้ง 2 ขนาด คือดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตรและ 3.2 ลิตร ในราคา 9.5 แสนบาท -1.25 ล้านบาท

ถึงแม้ว่า ปาเจโร สปอร์ต ออกมาชน กับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อย่างแรง แต่ปาเจโร สปอร์ตเน้นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตน์ทั้งสองกลุ่ม ที่มีรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ภายใต้แนวคิด “Utility on Demand” ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย อายุ 35-40ปี ชอบทำกิจกรรมกับครอบครัวเป็นหลัก และต้องการประหยัดน้ำมัน

ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ตอบสนองกลุ่มอายุ 32-38 ปี ที่ต้องการเลือกทั้งระบบ 4 ล้อ และ 2 ล้อ มีไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ที่ชอบขับรถกึ่งสปอร์ต และความท้าทาย ตามแนวคิด “Performance on Demand” ไว้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม การมีกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน แต่โตโยต้า ฟอร์จูน ได้วางโพสิชั่นเจาะกลุ่มคนในเมือง ส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์หรูหรา ชูเทคโนโลยี

ทำให้คนที่ขับ ฟอร์จูนเนอร์ เป็นคนในเมืองสุดๆ เทคโนโลยีจ๋า และมีภาพลักษณ์หรูหรา ส่วนคนที่ขับ ปาเจโร สปอร์ต เป็นคนที่ชอบแข็งแกร่ง ชอบลุย มั่นใจในการใช้รถ ไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ จึงทำให้คนทั้งสองกลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

มิตซูบิชิ ฝากความหวังกับปาเจโร สปอร์ต โดยทุ่มงบการตลาดถึง 40% ของงบการตลาดรวมและจะเปิดตัวพร้อมกันทั่วประเทศ 3-5 ตุลาคมนี้ พร้อมออกโรดโชว์ทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่

“คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี ตั้งเป้าไว้หลังจบปีงบประมาณ 2551 (มีนาคม 2552) ไว้ที่ 3000 คัน เฉลี่ยเดือนละ 500 คัน โดยผ่านเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 130 แห่งทั่วประเทศ” มิจิโร่ อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

แม้ว่าทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีจะไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่ด้วยความสมบูรณ์แบบของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต คงทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้จะมีก้างใหญ่อย่างฟอร์จูเนอร์ขวางทางไว้ แต่ 3000 คัน คงไม่เหนื่อยบ่ากว่าแรงของ ปาเจโร สปอร์ตคันนี้

ตลาดรถยนต์รวมทุกประเภทปี 2551 (ม.ค.-มิ.ย.) เติบโต 9.6%
ลำดับ ยี่ห้อ ยอดขาย มิ.ย. ยอดขาย ม.ค.-มิ.ย.
1 โตโยต้า 22,499 136,061
2 อีซูซุ 10,233 71,191
3 ฮอนด้า 7,960 43,126
4 นิสสัน 1,678 17,862
5 มิตซูบิชิ 1,952 14,909

ตัวเลือกในตลาดรถ SUV
– Toyota Fortuner เน้นความหรูหรานุ่มนวล ราคา 1,059,000-1,419,000 บาท
– Honda NEW CR-V เน้นความหรูหราแต่บึกบึน ราคา 1,125,000-1,403,000 บาท
– Chevrolet Captiva เน้นความสนุกสนานแบบสปอร์ต ราคา 1,189,000-1,560,000 บาท
– MITSUBISHI PAJERO SPORT เน้นความปราดเปรียวแบบสปอร์ต ราคา 9.5 แสนบาท -1.25 ล้านบาท

Did you know?
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของฟอร์จูนเนอร์ใหม่อยู่ที่ 11 ก.ม./ลิตร