“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศเป้าอีก 2 ปี รถยนต์นั่งผลิต-จำหน่ายในไทยจะเป็น “xEV” ทั้งหมด

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ถึงมาช้ากว่าแต่มาแน่! ค่ายรถญี่ปุ่น “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศเป้าหมายปี 2567 รถยนต์นั่งที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย จะเป็นรถ “xEV” ทั้งหมด โดยยังไม่เร่งก้าวกระโดดเข้ารถยนต์ประเภทใช้ไฟฟ้า 100% เชื่อว่าประเทศไทยต้องปรับฐานแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้านรถรุ่นเรือธงของปีนี้ส่ง “New Xpander” ลุยตลาด ปรับโฉมใหม่และพัฒนาประสิทธิภาพ พร้อมเปิดจอง 22 มีนาคมนี้

ปล่อยให้รถยนต์ไฟฟ้าจีนเข้ามาตีตลาดไทยก่อน แต่ค่ายรถญี่ปุ่นที่ตั้งฐานในเมืองไทยมามากกว่า 3 ทศวรรษอย่าง “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” กำลังขยับเข้าตลาดเช่นกัน โดย “เออิอิชิ โคอิโตะ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยแผนในงานแถลงข่าวประจำปี 2565 บริษัทเตรียมบุกตลาดรถอีวีอย่างเต็มที่

เป้าหมายในปี 2567 รถยนต์นั่งที่ผลิตและจำหน่ายในไทยของ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” จะเป็นรถประเภท xEV ทั้งหมด โดยหมายรวมทั้งรถประเภท PHEV (Plug-in Hybrid EV รถยนต์ที่ใช้ได้ทั้งไฟฟ้าและสันดาป) และรถประเภท BEV (Battery EV รถยนต์ไฟฟ้า 100%) ทั้งนี้ รถประเภทอื่น เช่น ปิกอัพ และรถยนต์นั่งที่ผลิตเพื่อส่งออก อาจจะยังมีรถประเภทสันดาปที่ผลิตอยู่

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
Mitsubishi Motors Outlander รุ่นนำร่องบุกตลาด PHEV ตั้งแต่ปี 2564

โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์สชิมลางตลาดรถอีวีไทยไปแล้วด้วยรุ่น “Outlander” ซึ่งเป็นรถ PHEV ออกจำหน่ายเมื่อเดือนมกราคม 2564

ปัจจุบันสายการผลิตรถ xEV ในไทยของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เออิอิชิกล่าวว่ามีไลน์แพ็กเกจจิ้งแบตเตอรี่แล้วที่โรงงานในแหลมฉบัง ส่วนการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าส่วนอื่นๆ มีเป้าหมายจะผลิตและใช้ซัพพลายในไทยให้มากที่สุดที่ทำได้ หากมีดีมานด์สูง อาจจะพิจารณาก่อสร้างโรงงานใหม่สำหรับรถอีวีโดยเฉพาะได้ในอนาคต

 

ขอสร้างฐานด้วย PHEV ก่อน

เออิอิชิกล่าวว่า บริษัทไม่กังวลแบรนด์ที่เริ่มบุกตลาดด้วย BEV แล้ว เนื่องจากการศึกษาตลาดของบริษัทเองกับผู้ทดลองใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย พบว่า แม้รถยนต์ BEV ที่วางคุณสมบัติให้สามารถขับขี่พิสัยไกลได้ถึง 400 กม. จะทำได้จริงตามที่โฆษณา แต่ไฟฟ้าเกือบจะหมดจนเหลือศูนย์ ท่ามกลางระบบนิเวศไทยที่ยังมีสถานีชาร์จไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ใช้ยังไม่มั่นใจนักหากจะขับรถ BEV ทางไกล

เรามองว่าการสร้างฐานตลาดจากรถ PHEV ก่อน เป็นการทำให้ฐานตลาดเข้มแข็งกว่าการกระโดดเข้าสู่ BEV เลยทีเดียว

มิตซูบิชิ มอเตอร์สจึงเห็นว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน รถยนต์ประเภท PHEV ยังมีความสำคัญ เพราะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้ไฟฟ้าเมื่อขับขี่ในเมือง และใช้เครื่องยนต์สันดาปสำหรับการขับขี่ระยะไกล คาดว่าในระยะแรก รถยนต์ BEV จะยังมีลักษณะเป็น “รถคันที่สอง” ของครอบครัว ไม่ใช่รถคันหลัก

“เรามองว่าการสร้างฐานตลาดจากรถ PHEV ก่อน เป็นการทำให้ฐานตลาดเข้มแข็งกว่าการกระโดดเข้าสู่ BEV เลยทีเดียว และขณะนี้รัฐบาลไทยก็เริ่มส่งเสริมตลาดแล้ว” เออิอิชิกล่าว

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ศึกษาการใช้งานรถ BEV ในไทย ผ่านการจับมือพันธมิตร ไปรษณีย์ไทย และ OR

ด้านการพัฒนารถ BEV ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งเซ็น MOU กับ “ไปรษณีย์ไทย” และ บมจ. ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก หรือ “OR” นำเข้ารถ “มินิแวน” รุ่น “มินิแค็บ มีฟ” ที่ใช้ไฟฟ้า 100% มาใช้ในการขนส่งพัสดุของไปรษณีย์ไทยจำนวน 2 คัน เพื่อทดลองการใช้งานในเส้นทางประจำระหว่างกรุงเทพฯ-ปทุมธานีเป็นเวลา 1 ปี ส่วน OR จะติดตั้งสถานีชาร์จ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย 2 แห่ง

โดยบริษัทเริ่มทดลองกับการใช้รถเชิงพาณิชย์ก่อนเพราะเห็นว่าจะเป็นตลาดที่สำคัญ และบริษัทจะมีโอกาสเก็บข้อมูลไปพัฒนารถให้เหมาะกับเมืองไทยซึ่งมีความต่างจากญี่ปุ่นหลายด้าน เช่น สภาพอากาศ

 

เรือธงปีนี้ส่ง “New Xpander” ลงตลาด

เออิอิชิกล่าวต่อถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของปีนี้ โดยต่อยอดจากความสำเร็จของรถรุ่น Xpander ที่สามารถครองตลาดรถประเภท MPV ได้ 60-70%

“เออิอิชิ โคอิโตะ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉมใหม่ “New Xpander” เปิดขายจริงกลางเดือนเมษายน 2565

ปีนี้จะมีการออกรุ่น New Xpander ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอินโดนีเซียที่มีการเปิดขาย รุ่นนี้จะมีการปรับปรุงใหม่หลายๆ ด้าน ดังนี้

  • มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในให้มีความสปอร์ตสูงขึ้นในสไตล์รถ SUV เพิ่มอุปกรณ์ใหม่ทันสมัยกว่าเดิม
  • ปรับช่วงล่างให้ศักยภาพดีขึ้น โช้กอัพปรับให้เท่ากับรุ่น Pajero Sport ใช้ล้อแมกซ์ 17 นิ้ว รับน้ำหนักได้ดีขึ้น
  • ปรับ Ground Clearance (ความสูงจากพื้นถนน) สูงขึ้นเป็น 220 มม. แต่จะไม่โคลงเคลงในการขับขี่ โดยรวมแล้วทำให้การขับขี่แบบ off-road ทำได้ดี ตาม DNA ของมิตซูบิชิ มอเตอร์สที่เป็นรถสำหรับแข่งแรลลี่ ลุยได้แม้เป็นทางขรุขระ
  • เปลี่ยนจากเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เป็นเกียร์ Eco Dynamic CVT รอบเครื่องหมุนน้อยลงเพื่อทำความเร็วเท่าเดิม ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานได้ 13% และยังทำให้การเร่งเครื่องจาก 0-100 กม./ชม. ลดเวลาลง 2 วินาที

ขณะนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์สยังไม่ประกาศราคา New Xpander แต่จะเปิดให้สัมผัสและทดลองขับคันจริงที่งานมอเตอร์โชว์ประจำปี 2565 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี อย่างไรก็ตาม จะเปิดจองผ่านดีลเลอร์ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมนี้ และเริ่มจำหน่ายจริงช่วงกลางเดือนเมษายน 2565 บริษัทยังแย้มด้วยว่า ผู้ที่สนใจและต้องการรถด่วนควรรีบจองก่อน เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยังส่งผลต่อการผลิตอยู่ในขณะนี้

จำนวนการผลิตและการส่งออกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ปี 2564

ปิดท้ายที่ผลการดำเนินงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เมื่อปี 2564 เออิอิชิรายงานว่า ปีก่อนสถานการณ์ตลาดเริ่มดีขึ้นจากดีมานด์ต่างประเทศ ทำให้การผลิตและการส่งออกดีขึ้น โดยการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น 41.3% เป็น 318,000 คัน และการส่งออกเพิ่ม 54% เป็น 285,000 คัน

ฐานผลิตมิตซูบิชิ มอเตอร์สในไทยถือเป็นฐานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของแบรนด์ มีกำลังผลิต 400,000 คันต่อปี และมีการส่งออกสะสมแล้ว 4 ล้านคัน เป้าหมายต่อไป บริษัทต้องการจะส่งออกสะสมให้ได้ 5 ล้านคันเร็วๆ นี้