Tuesday, November 5, 2024
Home Tags ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

Tag: ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

ยอดขาย ‘รถอีวี’ ทั่วโลกเดือนก.ค.โต 21% หลังได้แรงหนุนจากตลาด ‘จีน’ ที่ทำสถิติเติบโตสูงสุด

ดูเหมือนยอดขายทั่วโลกของรถยนต์ไฮบริดไฟฟ้าและปลั๊กอินยังไปต่อได้ โดยในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 21% โดยปัจจัยหลักมาจากยอดขายของ จีน ที่ถือว่าเติบโตสูงสุดในปี 2024 แม้ว่าการเติบโตจากฝั่งยุโรปจะลดลงก็ตาม  

รถสันดาปล้วนของ “Lamborghini” ขายเกลี้ยงจนถึงคันสุดท้าย เข้าสู่ยุคใหม่ “รถไฮบริด-อีวี”

“Lamborghini” ขายรถสันดาปคันสุดท้ายในพอร์ตไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้แบรนด์ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนรายนี้จะเข้าสู่ยุค “รถไฮบริด” และ “รถอีวี” โดยสมบูรณ์

“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศเป้าอีก 2 ปี รถยนต์นั่งผลิต-จำหน่ายในไทยจะเป็น “xEV” ทั้งหมด

ถึงมาช้ากว่าแต่มาแน่! ค่ายรถญี่ปุ่น “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศเป้าหมายปี 2567 รถยนต์นั่งที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย จะเป็นรถ “xEV” ทั้งหมด โดยยังไม่เร่งก้าวกระโดดเข้ารถยนต์ประเภทใช้ไฟฟ้า 100% เชื่อว่าประเทศไทยต้องปรับฐานแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้านรถรุ่นเรือธงของปีนี้ส่ง “New Xpander” ลุยตลาด ปรับโฉมใหม่และพัฒนาประสิทธิภาพ พร้อมเปิดจอง 22 มีนาคมนี้

จับตา ‘BYD’ ยอดขายพุ่ง ครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า-ไฮบริดในจีน แซง ‘Tesla’

‘BYD’ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ขึ้นเเซงเเบรนด์ดังอย่าง ’Tesla’ ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเเละรถยนต์ไฮบริดใน ‘ตลาดจีน’ ได้มากกว่าในปีที่ผ่านมา ด้วยการเติบโตที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น ‘2 เท่า’ Nikkei Asia รายงานว่า โมเดลรถยนต์ของ BYD ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด คือรุ่น ปลั๊กอินไฮบริด Song Plus DM-i ซึ่งออกจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 150,000...

ขายมือถือไม่ได้ก็ขายรถแทน! ล่าสุด ‘Huawei’ เปิดตัวรถ PHEV ชี้สเปกพร้อมชน ‘Tesla’

เมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทสตาร์ทอัพด้านรถยนต์ไฟฟ้าของจีนอย่าง Nio ที่ประกาศว่าเป็นคู่แข่งรายกับ Tesla ล่าสุดดูเหมือนจะต้องเจอคู่แข่งเพิ่มอีกรายก็คือ Huawei (หัวเว่ย) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนเป็นที่รู้จักกันดีในด้านผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมและสมาร์ทโฟน ก็เปิดเผยว่าจะเปิดตัวรถยนต์ที่พร้อมชน Model Y ได้

รู้จักเทคโนโลยี PLUG-IN HYBRID และความพิเศษของ MG HS PHEV

จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) พบว่า ระหว่างปี 2011-2020 นับได้ว่าเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด โดยเฉพาะช่วงปี 2016-2020 และมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตโลกยังคงจะร้อนขึ้นได้อีกอย่างน้อยปีละ 1 องศาเซลเซียส โดยทาง UN กำหนดเป้าหมายแรกในปี 2030 ตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนทั่วโลก 45% และตั้งเป้าปล่อยคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้โลกร้อน แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ‘รถยนต์’ โดยรถยนต์แบบสันดาปเดิมนั้นปล่อยคาร์บอนเฉลี่ย 150-200 กรัมต่อกิโลเมตรที่รถวิ่ง...