“Lamborghini” ขายรถสันดาปคันสุดท้ายในพอร์ตไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้แบรนด์ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนรายนี้จะเข้าสู่ยุค “รถไฮบริด” และ “รถอีวี” โดยสมบูรณ์
“Stephan Winkelmann” ซีอีโอ Lamborghini ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เยอรมัน Welt ว่า โมเดลรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปของบริษัทถูกจองซื้อครบทุกคันในไลน์การผลิตเรียบร้อยแล้ว
ทำให้ต่อจากนี้ รถยนต์ Lamborghini รุ่นใหม่ทั้งหมดจะเข้าสู่ยุครถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า
รุ่นแรกๆ ที่ออกมาจากนี้จะเป็นรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid ก่อน โดยจะเป็นการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิม คือ รุ่น Aventador และ Huracan รวมถึงมีปรับรุ่น Urus มาเป็นรุ่นไฮบริดด้วย
ก่อนที่ภายในทศวรรษนี้ บริษัทจะเริ่มเปิดตัวรถซูเปอร์คาร์ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ออกมาเป็นคันแรก
Winkelmann เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Insider ไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า เหตุที่บริษัทต้องเปลี่ยนมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าหรือกึ่งไฟฟ้าให้มากขึ้น เป็นเพราะกฎระเบียบเรื่องการปลดปล่อยคาร์บอนที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก ทำให้ไม่ใช่แค่ Lamborghini แต่ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ต่างก็ต้องเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทั้งแพงและยุ่งยากมาก
แต่การเปลี่ยนแหล่งเชื้อเพลิงในรถยนต์ จะไม่ทำให้ Lamborghini เสียรากเหง้าความเป็นตัวเองไป Winkelmann บอกว่า แบรนด์รถซูเปอร์คาร์ของเขาจะยังคงทำให้ผู้ซื้อได้สัมผัสกับ ‘ศักยภาพความเร็ว’ ที่ทำให้เลือดลมและอะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดเหมือนที่เคยเป็นมา ในขณะเดียวกัน บริษัทก็จะช่วยโลกด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนไปด้วย
- สงบศึก! ‘เทสลา’ และ ‘แบรนด์รถอีวีจีน’ เซ็นสัญญาเลิกทำ “สงครามราคา”
- กรุงศรี ออโต้ เผย 5 กลุ่มลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า ผู้มีรายได้สูงยังครองแชมป์พอร์ตเกิน 50%
สำหรับรถยนต์ Plug-in Hybrid คันแรกของ Lamborghini น่าจะได้ออกมาโลดแล่นบนถนนทั่วไปภายในสิ้นปี 2023 และรุ่นแรกที่จะออกสู่ตลาดไฮบริดก็คือรุ่น “Revuelto” ซูเปอร์คาร์ 1,000 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที และมีสปีดความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.