สื่ออเมริกันเผยภาพอาการโคม่าของวงการค้าปลีกสหรัฐอเมริกา ร้านค้าสุดโทรมกลายเป็นที่พบเห็นชินตาในแดนลุงแซม คาดจะมีการปิดร้านค้ามากกว่า 3,500 แห่งทั่วสหรัฐฯ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า สอดคล้องกับผลการวิจัยที่ระบุว่า ปริมาณการเดินทางไปที่ศูนย์การค้าของคนอเมริกันลดลงกว่า 50% ช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ภาพกองเสื้อผ้าหลุดหล่นไร้ระเบียบในร้านค้าปลีกกลายเป็นสัญญาณชัดเจนว่า วงการค้าปลีกอเมริกันกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต โดยล่าสุด ห้างดังอย่าง Macy’s, Sears และ JCPenney รวมถึงแบรนด์ที่มีร้านค้าปลีกของตัวเองอย่าง BCBG, Abercrombie & Fitch และ Bebe ต่างตัดสินใจปิดบริการร้านค้าหลายสิบแห่งไปเรียบร้อย
บางภาพของสื่ออเมริกันถูกบรรยายว่า การเดินไปที่ศูนย์การค้าวันนี้ไม่ต่างกับการเดินเข้าไปในสุสานที่ไร้ผู้คน อาคารศูนย์การค้าที่ถูกทิ้งร้างถูกมองว่า เป็นผลพวงจากการที่ผู้บริโภคแห่ไปซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น
ภาพเหล่านี้สอดคล้องกับการสำรวจของบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ Cushman & Wakefield ที่พบว่า ปริมาณการเดินทางไปที่ศูนย์การค้าของชาวอเมริกัน ลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบข้อมูลปี 2010 ถึง 2013
ภาวะที่เกิดขึ้นทำให้หลายห้างในดาวน์ทาวน์หลายมลรัฐได้รับผลกระทบ เนื่องจากเมื่อผู้คนในศูนย์การค้าน้อยลง ร้านค้า และแบรนด์ก็เลิกเช่าพื้นที่ ทำให้ห้างกลายเป็นพื้นที่รกร้างที่ขาดการจัดการ ส่งให้บรรยากาศในห้างดูน่ากลัว และไม่ปลอดภัย
ยกตัวอย่างเช่น ห้าง Lincoln Mall ในชิคาโก ซึ่งถูกทิ้งร้างอย่างน่าสลดใจ ขณะที่บางศูนย์การค้ายังเปิดให้บริการ แต่ก็ไม่สามารถหาผู้เช่าใหม่มาแทนผู้เช่ารายเดิม ทำให้หลายพื้นที่ถูกปิดไฟมืดน่าเป็นห่วง
หลายศูนย์การค้าพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่กำแพงห้าง แต่ก็ไม่สามารถปลุกบรรยากาศให้ผู้บริโภคกลับมาเดินห้างได้มากนัก
หนึ่งในกรณีที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ Sears ซึ่งเป็นแบรนด์ค้าปลีกที่เคยโด่งดัง และควบรวมกิจการกับ Kmart ในปี 2005 วันนี้ Kmart ถูกวิจารณ์ยับเยินเรื่องร้านค้าที่ไร้การจัดการ วิกฤตขาดทุนทำให้ Kmart ไม่มีพนักงานมากพอที่จะจัดการกับลังใส่สินค้า หรือการเรียงสินค้า โดยหนึ่งในสาขาที่ถูกกล่าวขานถึงมากที่สุด คือ ร้านในเมืองฮิลสโบโร รัฐโอไฮโอ ซึ่ง Kmart ทำได้เพียงแขวนกระดาษบังพื้นที่ที่เคยเป็นส่วนขายของชำ
ข้อมูลล่าสุด ระบุว่า Sears วางแผนปิดร้าน Kmart กว่า 108 สาขา และร้าน Sears อีก 42 แห่งในเมษายนนี้
ขณะที่ Macy’s ก็มีปัญหาการเงินไม่ต่างกัน โดยประกาศแผนปิดร้าน 68 แห่งในปี 2017 ด้าน JCPenney ก็ตัดใจประกาศปิดร้านค้า 138 แห่งในปีนี้ พร้อมกับที่ RadioShack กำลังเตรียมโบกมือลา 552 ร้านค้า
ยังมีแบรนด์อย่าง Wet Seal ซึ่งเปิดตัวเลขปิดร้านอยู่ที่ 171 แห่ง รวมถึงแบรนด์รองเท้าดังอย่าง Crocs ที่พร้อมดับไฟร้าน 160 แห่ง
งานนี้สรุปได้คำเดียวว่า โคม่าครั้งนี้ ค้าปลีกอเมริกันเห็นทีจะรอดยาก.
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000039632
