กระแสของการบริโภคกาแฟสดของคนไทยเพิ่มมากขึ้น มีร้านกาแฟแบบอินดี้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลโดยตรงต่อการบริโภคกาแฟสำเร็จรูป ทำให้ “เนสกาแฟ” มีการแก้เกมยกใหญ่ จากที่ปีก่อนได้รีแบรนด์กาแฟ 3 in 1 เป็นเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ผสมกาแฟคั่วบดให้รสชาติเหมือนกาแฟสดมาแล้ว
ดูเหมือนว่าการรีแบรนด์ของเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู จะเป็นการทดลองตลาดเพื่อดูผลตอบรับ ซึ่งผลตอบรับมียอดขายกว่า 2,500 ล้านแก้วใน 1 ปี เนสกาแฟจึงไม่รีรอที่จะปรับโฉมในกลุ่มของ “กาแฟสำเร็จรูป” หรือกาแฟชง ในแบรนด์เนสกาแฟเรดคัพ ผสมกาแฟคั่วบดละเอียด
เป็นการปรับสูตรใหม่ในรอบ 8 ปี ใช้เวลาพัฒนากว่า 2 ปี มีการผสมกาแฟคั่วบดละเอียดให้มีรสชาติ และกลิ่นหอมเหมือนกับกาแฟสด ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ในครั้งนี้ได้เปิดตัวครั้งแรกที่ไทยเป็นประเทศแรก เพราะตลาดกาแฟในไทยใหญ่ มีการเติบโตสูง และพฤติกรรมผู้บริโภคตอบรับกับกาแฟมากขึ้น
ตลาดกาแฟสำเร็จรูปในประเทศไทยในปี 2559 มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท เติบโต 1% ถือเป็นทิศทางที่ดี เพราะในปีก่อนๆ มีการติดลบเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปดื่มกาแฟนอกบ้าน โดยที่ตลาดกาแฟชงมีมูลค่า 3,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของตลาดรวม เนสกาแฟมีส่วนแบ่งตลาด 80%
แวลดดิสลาฟ อังดรีฟ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟ และครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตอนนี้ตลาดกาแฟมีการเติบโตที่ดี แต่เทรนด์ผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง มีร้านกาแฟเปิดขึ้นเยอะ เทรนด์เรื่องการดื่มหาแฟนอกบ้านเติบโตขึ้น โจทย์ก็คือทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค อีกเทรนด์ที่พบก็คือคนไทยใส่ใจสุขภาพ ดื่มกาแฟดำมากขึ้น เลยมีการปรับสูตรนี้ตอบโจทย์คนดื่มกาแฟดำ“
แวลดดิสลาฟมองว่าประเทศไทยมีการเติบโตอีกมาก เมื่อดูอัตราการบริโภคกาแฟเฉลี่ย 300 แก้ว/คน/ปี เทียบกับประเทศญี่ปุ่น 400 แก้ว/คน/ปี ยุโรป 600 แก้ว/คน/ปี หรือทางสแกนดิเนเวียสูงถึง 1,000 แก้ว/คน/ปี สามารถเติบโตได้อีกหลายเท่าตัว แต่ต้องจับเทนนด์ผู้บริโภคให้ได้
การปรับสูตรเนสกาแฟเรดคัพครั้งนี้ได้ใช้งบลงทุนรวม 800 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนด้านเทคโนโลยีโรงงาน 400 ล้านบาท และการตลาด 400 ล้านบาท ได้เลือก “ป๊อด โมเดิรน์ด๊อก” หรือ ธนชัย อุชชิน เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีหลายความสามารถ ทางเนสกาแฟต้องการกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนเนสกาแฟยังทำแคมเปญ unbranded coffee เปิดร้านกาแฟ Real coffee ที่อโศก นำเนสกาแฟเรดคัพสูตรใหม่มาจำหน่าย แต่ไม่บอกว่าเป็นยี่ห้ออะไร โดยใช้บาริสต้าหนุ่มหล่อเป็นคนดึงดูด แล้วดูผลตอบรับจากผู้บริโภค ซึ่งมีการเผยแพร่บนโลกออนไลน์เพราะให้ความสนใจบาริสต้า แต่ก็มีลูกค้าที่ทดลองชิมกาแฟเช่นกัน
ปัจจุบันในกลุ่มธุรกิจกาแฟสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์เนสกาแฟมีทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู 2.เนสกาแฟเรดคัพ 3.เนสกาแฟโกลด์ 4.เนสกาแฟกระป๋อง ในตอนนี้ได้ปรับสูตรไป 2 กลุ่มแล้ว ต้องดูต่อไปว่าอีก 2 กลุ่มทางเนสกาแฟจะแก้เกมอย่างไร เพราะเป็นกลุ่มพรีเมียม และกลุ่มแมส