LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton หรือ LVMH ที่เป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ “หลุยส์ วิตตอง” อันโด่งดังได้ทุ่มเงินมหาศาลถึง 13,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 451,425 ล้านบาท เพื่อเข้าครอบครองกิจการของ Christian Dior แบรนด์แฟชั่นอายุ 70 ปี ของฝรั่งเศสอย่างเบ็ดเสร็จ
ก่อนหน้านี้ทาง LVMH ก็เป็นเจ้าของแบรนด์น้ำหอม Christian Dior อยู่แล้ว แต่การใช้เงินจำนวนถึง 13,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยจะทำให้ LVMH ได้สิทธิ์ในการบริหาร Christian Dior อย่างเด็ดขาด และยังทำให้ LVMH ได้ครอบครองส่วนของสินค้าแฟชั่นชั้นสูง, เครื่องหนัง, เสื้อผ้าสำเร็จรูป และธุรกิจรองเท้าของ Christian Dior ไปด้วย
Bloomberg เชื่อว่าความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในวงการแฟชั่นครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากกลุ่มลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ทั้งกระเป๋าหนัก และมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นอย่างมากมาย
สำหรับนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของกิจการ LVMH ที่มีทรัพย์สินถึง 46,300 ล้านเหรียญฯ เริ่มเข้ามาดูแลกิจการบางส่วนของ Dior ตั้งแต่ยุค 1980s แล้ว และยังเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยอีกหลายรายการ เช่น Fendi, Bulgari และ Rimowa เป็นต้น
Christian Dior รวมเป็นหนึ่งเดียวใต้ร่มเงา LVMH
สำหรับ Dior นั้นได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่เปลี่ยนแปลง “โฉมหน้า” ให้กับแฟชั่นชั้นสูงของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ช่วงหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยดีไซเนอร์ผู้โดดเด่นอย่าง ปิแอร์ การ์แดง และ จอห์น กัลลิอาโน่ จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญแห่งอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยและแฟชั่นของฝรั่งเศส
ซึ่งครอบครัวของ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ ได้ถือหุ้นบางส่วน และดูแลกิจการบางอย่างของ Dior มานานหลายปีแล้ว สำหรับการรวมกันของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟชั่นครั้งนี้ จะทำให้กิจการต่างๆ ของ Dior ได้กลับมารวมกันอีกครั้ง สตีเฟน มิตเชล แห่ง Jupiter Asset Management มองว่าน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ถือหุ้น เพราะจะเป็นการทำให้ 2 แบรนด์สำคัญ คือแบรนด์แฟชั่นของ Christian Dior กับแบรนด์น้ำหอม Christian Dior ที่ LVMH เป็นเจ้าของอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ได้มาอยู่ในโครงสร้างการบริหารงานเดียวกันซะที
“การรวมกันจะทำให้ Christian Dior Couture กับ Christian Dior Parfums ได้กลับมาอยู่อยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้นำคนเดียวกัน นี่คือการปัดกวาดโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ” มิตเชล แสดงความเห็นเช่นเดียวกับตัวของ อาร์โนลด์ ที่บอกว่า “การรวมกิจการครั้งนี้จะทำให้โครงสร้างต่างๆ ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ตลาดรอคอยให้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน”
Christian Dior จะยังเป็น Christian Dior เหมือนเดิมอย่างแน่นอน
หลังจากนี้ Christian Dior จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการบริหารงานร้าน และการตลาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นการสลับสับเปลี่ยนบุคลากรก็จะทำให้ง่ายขึ้นด้วย
เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ ยังได้กล่าวว่าการรวมกิจการครั้งนี้ คือการแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของฝรั่งเศส และจะช่วยให้ LVMH กับ Christian Dior ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันฝ่ายของ LVMH ก็ยืนยันว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะไม่ทำให้ Christian Dior ต้องเปลี่ยนแปลงไปแน่นอน
ซิดนีย์ ทอเลดาโน่ ซีอีโอของ Dior ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการทำงานด้านการผลิต และด้านความคิดสร้างสรรค์ของ Christian Dior อย่างแน่นอน อย่างที่แบรนด์อื่นๆ ซึ่ง LVMH เป็นเจ้าของ ก็ยังได้รับสิทธิ์ในการดูแลการผลิต และสร้างสรรค์งานอย่างอิสระมาตลอด
“ในด้านความคิดสร้างสรรค์ และการพัฒนา เราเชื่อว่าความเป็น Dior จะยังคงชัดเจนต่อไปอย่างแน่นอน” ทอเลดาโน่ กล่าว