เทรนด์เรื่องดูแลสุขภาพ หรือการออกกำลังกายยังคงมีการเติบโตในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการเติบโต เครื่องดื่มเกลือแร่ หรือสปอร์ตดริ้งค์ก็เป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับอานิสงส์ ได้เห็นแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี
เมื่อดูภาพรวมตลาดเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคลาสสิกซึ่งเป็นสินค้าบรรจุขวดแก้ว ขนาดเล็ก เน้นเกลือแร่ ราคาไม่เกิน 15 บาท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 85% และกลุ่มโมเดิร์นเป็นสินค้าบรรจุขวด PET ขนาดใหญ่ ราคามากกว่า 15 บาท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15% เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเทรนด์เรื่องพฤติกรรมการดื่มที่ชอบแบบพกพาสะดวก
ปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ที่เป็นแบรนด์หลักๆ ในตลาดอยู่ 7-8 แบรนด์ เรียกว่าผู้เล่นในตลาดเครื่องดื่มเกือบทุกรายในไทยต้องมีไลน์สินค้าเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อจับตลาด การแข่งขันในช่วงหลังจะเห็นการใส่ส่วนผสมใหม่ๆ หรือการแตกเซ็กเมนต์ใหม่เพื่อสร้างความแตกต่าง อย่างเช่น 100 พลัส และอควาเรียส ที่ชูจุดขายที่เป็นเครื่องดื่มอัดลมผสมเกลือแร่ และแต่ละแบรนด์ต่างพรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างการรับรู้
ทิปโก้ เวฟ เป็นแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาในตลาดสปอร์ตดริ้งค์ เป็นการต่อยอดจากตลาดน้ำผลไม้ แตกไลน์สู่เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทอื่น ได้ใช้งบการตลาดรวม 80 ล้านบาท
กิตติเชษฐ์ สถิตย์นพชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ทิปโก้ เวฟได้วางจุดยืนเป็นเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ระดับพรีเมียม เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพที่ชื่นชอบวิถีธรรมชาติ รักการออกกำลังกาย อายุระหว่าง 20-50 ปี ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 15-20% โดยมั่นใจว่าภายใน 3-5 ปีจะเป็นผู้นำเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์จากธรรมชาติ
งบการตลาดกว่า 80 ล้านบาท เน้นสร้างการรับรู้ ควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ พร้อมได้จัดกิจกรรมโรดโชว์และสินค้าตัวอย่างตามสถานที่ออกกำลังกาย อีกทั้งร่วมสนับสนุนส่งเสริมด้านกีฬาในการทำกิจกรรมกับกลุ่มนักออกกำลังกาย เช่น นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน และฟิตเนส