เทสโก้ โลตัส ประกาศแผนปี 2560 ลุยเปิดสาขา 105 แห่ง ให้ครบ 2 พันสาขาปีนี้ เน้นทำเลภาคกลางและอีสาน ทุ่มงบปรับซัพพลายเชนเน้นอาหารสด รีโนเวตสาขาเดิมสู่ศูนย์การค้า เพิ่มพื้นที่เช่า สร้างรายได้ระยะยาว รองรับไลฟสไตล์คนไทยชอบเดินห้าง
ตลาดค้าปลีกยังคงเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้เล่นในตลาดต่างต้องปรับตัวให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภค อีกทั้งยังต้องให้แข่งขันในตลาดได้
เทสโก้ โลตัส อีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดค้าปลีกในกลุ่มของไฮเปอร์มาร์เก็ต ปีนี้ได้ทำตลาดในไทยครบ 23 ปีแล้ว เรียกว่ามีฐานแฟนคลับอยู่ประมาณหนึ่งจากจำนวนสมาชิกคลับการ์ดที่ปัจจุบันมีอยู่ 15 ล้านรายกลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นกลุ่มแม่บ้าน
ทิศทางต่อไปของเทสโก้ โลตัสในปีนี้ ต้องการที่จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้มากขึ้น กลายเป็นความท้าทายที่สุด ที่ต้องผสานหลายๆ ยุทธศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยที่มีทั้งหมด 4 อย่างด้วยกัน ได้แก่ การขยายสาขา, รีโนเวตสาขา, เน้นสินค้าเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย และเน้นช่องทางออนไลน์
จอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “ประเทศไทยยังเป็นประเทศสำคัญของเทสโก้มีการเติบโตสูงอยู่ ยังคงมีโอกาสทั้งออนไลน์ และหน้าร้าน แม่ว่าตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตจะนิ่งๆ ไม่เติบโตสูง แต่ยังไปได้ดีในต่างจังหวัด และคนไทยยังมีพฤติกรรมที่มาซื้อของในสโตร์อยู่ เขายังชอบความคุ้มค่า แต่ก็ต้องมีประสบการณ์ที่ดีในการช้อปปิ้งด้วย“
จึงเป็นที่มาของ 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจของเทสโก้ โลตัส ในปี 2560
1. ขยายสาขา
จะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 105 สาขา แบ่งเป็นรูปแบบของไฮเปอร์มาร์เก็ต 11 สาขา ตลาด 5 สาขา และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 89 สาขา ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันเทสโก้ โลตัสมีสาขารวมทั้งหมดกว่า 1,900 สาขา ส่วนใหญ่เป็นเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 1,500 สาขา ไฮเปอร์มาร์เก็ต 180 สาขา ที่เหลือเป็นรูปแบบอื่นๆ เช่น ตลาด, เอ็กซ์ตร้า, พลัสมอลล์ รวมแล้วในปีนี้จะสาขาทั้งหมด 2,000 สาขา
ทำเล ของสาขาที่โฟกัสมากขึ้นอยู่ที่ภาคกลาง และภาคอีสาน เพราะจำนวนประชากรเยอะ และมีโอกาสการเติบโตสูง
2. รีโนเวตสาขาเดิม
ในปีนี้อีก 18 แห่ง โดยได้เริ่มทำมา 3 ปีแล้ว เฉลี่ยปีละ 18 สาขา เป็นการปรับพื้นที่ขายในสโตร์ของเทสโก้โลตัสน้อยลง และเพิ่มพื้นที่ขายสำหรับให้พาร์ตเนอร์มาเช่า ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือโรงภาพยนตร์
สาเหตุหลักที่เทสโก้ โลตัสได้ทำการรีโนเวตเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ต้องการบริการที่ครบ การปรับพื้นที่ทำให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ในการเดินชัอปปิ้งดีขึ้น และอยู่ในเทสโก้ โลตัสนานขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้คนต่างจังหวัดก็มีเทรนด์การใช้ชีวิตแบบคนเมือง ต้องมีไลฟ์สไตล์มาเสริม
ที่สำคัญ ทำให้เทสโก้ โลตัสมีรายได้จากค่าเช่ามากขึ้น เป็นรายได้ในระยะยาว โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยขายของเองด้วย
3. โฟกัสกลุ่มสินค้า อาหารสด
การแข่งขันของซูเปอร์สโตร์ มีการหั่นราคากันดุเดือด ใช้โปรโมชั่นตลอดทั้งปีเทสโก้ โลตัสเองแม้ยังจำเป็นต้องมีแต่ต้องหันไปมุ่งเน้นโฟกัสที่สินค้าบางกลุ่มที่ขายดี หรือที่ตรงกลุ่มเป้าหมายหลัก ที่เป็นกลุ่มแม่บ้านก็คืออาหารสดสินค้าแม่และเด็ก นมยูเอชที และขนม
ในปีนี้ยังคงโฟกัสที่สินค้ากลุ่มนี้ เน้นคุณภาพและมีราคาที่คุ้มค่า ในส่วนของอาหารสด มีการจัดวางเชลฟ์สินค้าใหม่ตามพฤติกรรมคนไทยที่ชอบจับสินค้าเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าด้วย เพราะสินค้าอาหารสดเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคยังคงนิยมมาซื้อที่สโตร์อยู่
งบลงทุนในปีนี้ จะถูกใช้พัฒนาซัพพลายเชนอาหารสดเพื่อยกระดับคุณภาพ และทำให้ราคาถูกลงสำหรับลูกค้าด้วย โดยจะพัฒนาทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่มาจำหน่ายให้กับเทสโก้ โลตัส เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลงทุนซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีแพ็กสินค้า ระบบการจัดส่งสินค้า และที่ศูนย์กระจายสินค้า การจัดเรียงสินค้าที่สวยงามและกิจกรรมในสาขา
4. ผลักดันออนไลน์มากขึ้น
แม้ว่าสัดส่วนรายได้ของช่องทางออนไลน์จะยังน้อยมากก็ตาม เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดของเทสโก้ โลตัส แต่มีการเติบโตสูงเป็น 3 หลัก ตอนนี้เทสโก้ โลตัสมีช้อปออนไลน์ 3 แพลตฟอร์มด้วยกัน ก็คือ เทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ เน้นส่วนของอาหารสด และสินค้าอุปโภคบริโภค มีสินค้ากว่า 20,000 รายการ Lazada เน้นสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า มีสินค้ากว่า 12,000 รายการ และ Weloveshopping เน้นสินค้าความสวยความงาม มีสินค้ากว่า 4,000 รายการ
โดยมีการเพิ่มสินค้าในช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยที่จะไม่เจาะกลุ่มไหนเป็นพิเศษ แต่เน้นในการจับตาพฤติกรรมผู้บริโภคให้ทัน แล้วหาสินค้าให้ตรงกับเทรนด์นั้นๆ ตอนนี้เป็นเทรนด์ของความสวยความงาม ก็มีช่องทาง Weloveshopping เข้ามาเสริม