H&M ตะลุยแดนปลาดิบ

H&M แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่มีถิ่นกำเนิดในสวีเดน เมื่อปี 1947 เพิ่งเปิดร้านแรกที่ญี่ปุ่น โดยเลือกศูนย์แฟชั่น “ชูโอ โดริ” ซึ่งอยู่กึ่งกลางทางระหว่างกินซ่ากับชินบาชิ โตเกียว เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2008 หลังประกาศแผนรุกตลาดญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

จากการสังเกตของทีมงาน Japan Marketing News ปรากฏว่ามีลูกค้าต่อคิวเพื่อรอช้อปเสื้อผ้าถึง 3,000-5,000 คน ตลอดทั้งวัน โดยพนักงานขายบอกว่าลูกค้าแต่ละคนต้องใช้เวลารอเฉลี่ยประมาณ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

แต่แม้จะมีข่าวว่ามีคิวยาวขนาดนี้ นักวิเคราะห์ตลาดลูกค้าญี่ปุ่น ก็บอกว่า การมีคิวยาวในช่วงสัปดาห์แรก หรือเดือนแรกที่เปิดร้าน ไม่ได้การันตีว่าร้านนี้จะประสบความสำเร็จในระยะยาว นั่นเป็นเพราะชาวญี่ปุ่นค่อนข้างต่างจากลูกค้าทั่วๆ ไป และชอบลองสิ่งใหม่ๆ เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับ H&M ที่ญี่ปุ่นจึงต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม H&M ไม่ยอมรอ เพราะด้วยความเชื่อมั่น จึงมีแผนเปิดอีกหลายสาขาในโตเกียว โดยหลังเปิดที่กินซ่า 2 เดือนจะเปิดอีกร้านที่ “ฮาราจูกุ” ซึ่งเป็นแหล่งของเทรนดี้ทั้งหลายและในปีหน้าจะเปิดที่ “ชิบูย่า” อีกแหล่งวัยรุ่นแหล่งใหญ่ของโตเกียว โดยที่นี่จะมีขนาดใหญ่กว่าที่ฮาราจูกุเท่าตัว เพราะที่ชิบูย่ามีโรงเรียน และวิทยาลัยหลายแห่ง และยังมีกลุ่มที่อายุ 20-30 ปี มาเดินเล่นจำนวนมาก

ปัจจุบัน H&M มีสาขาใน 32 ประเทศ ทั้งหมด 1,600 ร้านค้า มีพนักงานรวม 68,000 คน โดยมีปรัชญาธุรกิจคือ “การนำแฟชั่น และคุณภาพ ในราคาดีที่สุด” โดยมีสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องสำอาง จนไปถึงร้องเท้า

ในเอเชียมีสาขาที่ประเทศจีน และฮ่องกง โดยเพิ่งเปิดไปเมื่อปี 2007 และที่ญี่ปุ่นเป็นสาขาล่าสุด ซึ่ง H&M มีข่าวแจกออกมาว่าตอนที่เปิดร้านในฮ่องกง ปรากฏว่ามีลูกค้าต่อคิวและใช้เวลารอช้อปถึง 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีในตะวันออกกลาง 7 ประเทศ ในอเมริกาเหนือ ทั้งที่อเมริกา และแคนาดา โดยที่อเมริกา เปิดร้านแรกเมื่อปี 2000 ที่ถนนฟิท อเวนิว นิวยอร์ก จนปัจจุบันมีนับร้อยสาขา ส่วนในยุโรปมี 23 ประเทศ เปิดสาขาแรกในปี 1994 ที่ออสเตรีย