ซื้อ “ประกัน” แถม “ชิงโชค”

ท่ามกลางวิกฤตการเงินทั่วโลก ที่ลามมาถึง “ไอเอ็นจี” สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สัญชาติฮอลแลนด์ที่ต้องรับเงินจากรัฐบาลมาโปะฐานะการเงินถึง 1.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ “ไอเอ็นจี” ในไทยกลับไม่หงอยเหงา ใช้ความได้เปรียบในเครือข่ายที่ไอเอ็นจีถือหุ้นคือธนาคารทหารไทย และไอเอ็นจีประกันชีวิต อัดแคมเปญ กระตุ้นธุรกิจประกันชีวิตให้คึกคักส่งท้ายปี

การแถลงครั้งนี้เต็มที่สุดๆ จากระดับบิ๊กที่บริษัทแม่ไอเอ็นจีส่งมาบริหารในสองบริษัท คือ “รามากริชนาน (แรมกี้) สุบรามาเนียน” ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย และลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย และ “ราเจซ เสฐฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด แม้จะเพิ่งปรากฏข่าวร้อนของไอเอ็นจีที่เนเธอร์แลนด์เพียง 2 วัน แต่ทั้งสองก็ไม่หลบหน้าสื่อ พร้อมประสานเสียงกันชัดเจนว่าแม้ต้องรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลฮอลแลนด์ แต่ธุรกิจก็ยังเดินหน้าได้เหมือนเดิม

“แรมกี้” บอกว่าเป้าหมายของธนาคารทหารไทยคือการเติบโตในทุกผลิตภัณฑ์ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า และการขายประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ผ่านสาขาของธนาคาร (Bancassurance) ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารมากขึ้น และเพื่อการกระตุ้นให้ลูกค้าเดินเข้ามามากขึ้นจึงต้องมีแคมเปญ “Your Life Full of Rewards” ที่ผู้ทำประกันจะได้ชิงโชคมีของรางวัลตั้งแต่รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ ไปจนถึงสร้อยคอทองคำ รวมของรางวัลมูลค่า 3 ล้านบาท

นี่คือการกระตุ้นยอดเพื่อให้ธุรกิจการขายประกันให้ไอเอ็นจีประกันชีวิตได้ตามเป้าหมายภายใน 12 เดือนแรกมีเบี้ย 1,000 ล้านบาท หลังจากที่เริ่มมาตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2551มีลูกค้า 20,000 ราย จำนวนเบี้ย 500 ล้านบาท

ทางด้านไอเอ็นจีประกันชีวิตนั้น “ราเจซ” บอกว่าทำธุรกิจช่วงนี้ยอมรับว่าเหนื่อยและหนัก และทำยอดได้เติบโตไม่สูงเท่าปีที่แล้วที่โตถึง 60% คาดว่าปีนี้จะมียอดเบี้ยใหม่ 2,100 ล้านบาท เติบโต 25-30% แต่ยังดีกว่าตลาดรวมที่เติบโตเพียง 10-11% เพราะช่องทางการจำหน่าย และแบรนด์ไอเอ็นจีที่เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แม้จะมีคนสับสนระหว่างชื่อของเอไอจีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นโจทย์ให้ไอเอ็นจีต้องแก้และสื่อสารต่อลูกค้าต่อไป

ในปี 2552 ไอเอ็นจีเตรียมส่งเงินเข้ามาขยายธุรกิจประกันชีวิตในไทยอีก 20 ล้านยูโร หรือ 920 ล้านบาท คาดว่าการทำตลาดและพัฒนาช่องทางการขายมากขึ้นจะทำให้ไอเอ็นจีถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า

สำหรับช่องทางการขายปัจจุบัน 10% มาจากไดเร็กเซลส์ 20% มาจาก Bancassurance และ 70% มาจากตัวแทนจำหน่าย
นี่คือช่วงเวลาที่ 2 บริหารเลือดสีส้มจาก “ไอเอ็นจี” ต้องประสานมือ อย่างน้อยเพื่อประกันความมั่นใจให้คนไทยยังเดินเข้าแบงก์ และซื้อประกันชีวิตกันต่อไป เพียงแต่ว่ายังต้องลุ้นว่า “วิกฤต” นี้ “ไอเอ็นจี” จะชิงโชคได้รางวัลใหญ่หรือไม่

Profile

ไอเอ็นจีกรุ๊ป ขาดทุนไตรมาส 3 ปี 2551 มูลค่า 500 ล้านยูโร หลังรับเงินช่วยเหลือจากทางการเนเธอร์แลนด์ 1.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คณะกรรมการบริษัทประกาศงดรับเงินโบนัสประจำปี และหากผู้บริหารลาออกจะได้เงินชดเชยไม่เกินเงินเดือน 1 ปีเท่านั้น ไอเอ็นจีกรุ๊ปมีธุรกิจธนาคาร ประกันภัย และบริหารสินทรัพย์ มีลูกค้ารวม 75 ล้านราย ใน 50 ประเทศ มีพนักงานรวม 125,000 คน