ตลาดไลฟ์สไตล์ช้อป หรือร้านสินค้าราคาเดียวยังมีความคึกคักต่อเนื่อง จากปีที่แล้วที่มีแบรนด์ใหญ่พาเหรดกันเข้าสู่ตลาดกันหลายแบรนด์ ล้วนสร้างจุดขายที่ราคาถูกทั้งสิ้น ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ราคา 12 บาท ไปจนถึง 69 บาท เช่น ร้านมินิโซ, แบร์สโตร์, เพนกวิน เป็นต้น
ทำให้ผู้เล่นเดิมในตลาดจึงต้องปรับตัวเพื่อรับการแข่งขัน และรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ละแบรนด์ได้ทำการตลาด ทำโปรโมชั่น พร้อมกับโปรแกรม CRM เพื่อดึงดูดลูกค้ากันยกใหญ่
ห้างสรรพสินค้าโรบินสันได้ปั้นแบรนด์ “จัสท์ บาย” มาหลายปีแล้ว และได้รีแบรนด์เมื่อหลายปีก่อน ให้เป็นร้านไลฟ์สไตล์ราคาเดียว เริ่มต้นที่ 60 บาท อาศัยจุดแข็งด้วยทำเลในโรบินสันที่มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 42 สาขา
ในปีนี้จัสท์ บายได้รุกตลาดหนักขึ้นด้วยการใช้ “มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง” เปิดตัว Music Video ในชื่อเพลง ‘Just สบาย’ โดยศิลปินฟักกลิ้งฮีโร่ เป็นมิวสิก วิดีโอรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ ให้ผู้ชมสามารถมีประสบการณ์ร่วมได้ การทำแคมเปญในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ และจับกลุ่มลุกค้าวัยรุ่นกลุ่มเจนวายมากขึ้น
แคมเปญนี้ได้ดึงศิลปินแร็ปเปอร์ ‘กอล์ฟ – ฟักกลิ้งฮีโร่’ ซึ่งเป็นศิลปินไอคอนที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบ เนื่องจากมีแนวเพลงที่สนุกสนาน มีเอกลักษณ์เป็นที่จดจำ และเป็นคุณพ่อยุคใหม่ เนื้อหาของเพลงนี้ได้นำสินค้าของจัสท์ บายที่มีมากกว่า 10,000 ไอเท็มมาสื่อผ่านคอนเทนต์ที่โดนใจก็คือบทเพลง เป็นการเปรียบให้จัสท์ บายเป็นตัวช่วยในชีวิตประจำวันได้
แคมเปญนี้เป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ของจัสท์ บายที่ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคให้มากขึ้น รวมไปถึงสร้างความตื่นตัวให้ตลาด เพราะถือว่าในตลาดนี้ไม่ค่อยมีผู้เล่นลุกขึ้นมาทำแคมเปญใหญ่มาก่อน ส่วนใหญ่เป็นในเรื่องของโปรโมชั่นหน้าร้านมากกว่า
อนวัช สังขะทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) เผยว่า นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของแบรนด์จัสท์ บาย มีการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความทันสมัย รวมทั้งสร้างความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์จากร้านสินค้าราคาเดียวอื่นๆ ผ่านไอเดียการนำเสนอรูปแบบใหม่ เพื่อให้สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเจนมิลเลนเนียม หรือ เจนวาย ที่ในปัจุบันกลายเป็นเสมือนขุมทรัพย์ของแบรนด์และนักการตลาด เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และมีศักยภาพในการจับจ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
โดยพฤติกรรมที่สำคัญของลูกค้ากลุ่มนี้ คือ กล้าตัดสินใจ ไม่ชอบความจำเจ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ชอบความสนุกสนาน เสพสื่อดิจิทัลเป็นหลัก ดังนั้นการสื่อสารทางการตลาดแบบเดิมๆ จะไม่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ได้ จัสท์ บายจึงมีการปรับตัวโดยวิธีการสื่อสารทางการตลาดรูปแบบใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มมิลเลนเนียม หรือเจนวายเพิ่มมากขึ้น
การปรับตัวครั้งสำคัญของแบรนด์จัสท์ บายในครั้งนี้ โรบินสันคาดว่าจะเป็นการปลุกกระแสตลาดไลฟ์สไตล์ช็อปราคาเดียวให้กลับมาคึกคัก และมีสีสันมากขึ้น รวมทั้งจะเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มยอดขายให้โตตามเป้ากว่า 40% และสร้างความเข้มแข็งให้กับแบรนด์มากขึ้นเช่นกัน