Walt Disney Co. ประกาศเตรียมปล่อยสตรีมมิงทีวีใหม่สู้ศึกในตลาดบันเทิง ทั้งช่องกีฬาของ ESPN นอกจากนั้นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ได้ยืนยันว่าจะยุติความร่วมงานกับ Netflix หลังสัญญาฉบับล่าสุดสิ้นสุดลงด้วย
โดย Disney บอกว่านี่คือยุทธศาสตร์ในการเปลี่ยนเส้นทางการจัดจำหน่ายผลงานของบริษัท ในสถานการณ์ที่วงการกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การให้บริการทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในต้นปี 2018 ช่องกีฬา ESPN ในเครือของ Disney จะเริ่มต้นนำเสนอบริการสตรีมมิงทีวีรายการกีฬาต่างๆ ส่วนในปี 2019 Disney ก็จะเปิดตัว “บริการสตรีมมิงภายใต้แบรนด์ของ Disney อย่างเป็นทางการ”
การประกาศข่าวสำคัญครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลากใกล้เคียงกับที่ Disney เข้าไปถือหุ้นในบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีสตรีมมิงอย่าง BAMTech LLC. เพิ่มเติม ด้วยการจ่ายเงิน 1,580 ล้านเหรียญฯ ซื้อหุ้นของ BAMTech จนขณะนี้ Disney ถือหุ้นในบริษัทนี้สูงถึง 75%
ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปตามความเปลี่ยนแปลงของวงการ ที่ยอดผู้ชมโทรทัศน์เคเบิลลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ผู้ชมสตรีมมิงทีวีอย่าง Netflix มีตัวเลขสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“วงการสื่อกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การที่ผู้สร้างสรรค์เนื้อหาสามารถจัดจำหน่ายผลงานไปถึงผู้ชมได้โดยตรง และการเข้าไปดูแล BAMTech ซึ่งเป็นผู้นำในนวตกรรมใหม่ๆ จะทำให้เราสามารถเชื่อมไปถึงผู้ชมได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้เราปรับตัวกับตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปได้เร็วขึ้น” โรเบิร์ต อีเกอร์ ประธานของ Dinsey กล่าว
“การเข้าซื้อครั้งนี้ และการเปิดตัวบริการถึงผู้บริโภคโดยตรง คือก้าวสำคัญของยุทธศาสตร์เพื่อความเติบโตของบริษัท ที่จะสร้างความได้เปรียบ และโอกาสในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลง และจะสนับสนุนความยิ่งใหญ่ของแบรนด์เราให้แข็งแกร่งกว่าเดิม”
แน่นอนว่าการเดินหน้าไปสู่ธุรกิจบริการสตรีมมิงทีวีอย่างเต็มตัวครั้งนี้ จะทำให้ Disney ตัดสินใจยุติความร่วมมืออกับ Netflix ที่บริษัทส่งผลงานไปเผยแพร่ทาง Netflix มากมาย โดยทุกอย่างจะเริ่มต้นในปี 2019 เป็นต้นไป
Disney น่าจะใช้ผลงานทั้งภาพยนตร์ และทางโทรทัศน์ที่บริษัทสร้างสรรค์เอาไว้มานานหลายสิบบี เป็นจุดขายสำหรับสตรีมมิงทีวีใหม่แกะกล่องของบริษัท และเนื้อหาด้านกีฬาของ ESPN ก็จะนำเสนอการถ่ายทอดสดกีฬามากมาย
บริการใหม่ของ EPSN จะนำเสนอรายการกีฬาถึง 10,000 รายการต่อปี รวมถึงการแข่งขัน เมเจอร์ลีกเบสบอล, ฮอกกี NHL, ฟุตบอลเมเจอร์ลีก, เทนนิคแกรนสแลม และการแข่งขันกีฬาในระดับมหาวิทยาลัยอีกมากมาย
Disney ยังเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ABC ซึ่งทางบริษัทยังได้เปรยว่าสตรีมมิงทีวีของ Disney จะมีรายการที่บริษัทสร้างเองอย่างแน่นอน ทั้งจาก Disney Channel, Disney Junior และ Disney XD
ที่มา : manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000081335