5 สิ่งที่อยากให้บอสฝรั่งเข้าใจ “การทำงานกับคนไทยด้วยกันว่ายากแล้ว แต่ทำงานกับฝรั่งมันยากกว่า”

การทำงานร่วมกันกับชาวต่างชาติที่มีความเชื่อและวิธีการทำงานที่ต่างกันนั้นย่อมยากกว่าการทำงานกับคนไทยด้วยกัน ซึ่งมีวิธีการคิดและไลฟ์ไสตล์การทำงานที่ค่อนข้างคล้ายกัน ผมได้มีโอกาสได้มาทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ในบริษัทที่ชื่อว่า iPrice ซึ่งเป็นบริษัทด้านอีคอมเมิร์ซที่มีชาวต่างชาติมากกว่า 25 สัญชาติทำงานร่วมกันอยู่ในออฟฟิศใจกลางเมือง กัวลาลัมเปอร์ ทุกคนต่างต้องนั่งรวมกันในออฟฟิศรูปแบบที่เปิดกว้าง รวมถึงบอสหัวทองก็เช่นกัน พวกเขาไม่มีห้องหรูสำหรับตัวเองแต่อย่างใด และนี่ก็เป็นสาเหตุให้ผมเขียนบทคความนี้ขึ้นเพื่ออธิบาย 5 สิ่งที่คนไทยอย่างผม อยากให้บอสหัวทองเข้าใจ

คนเอเชียไม่ชอบการปะทะกันซึ่งๆ หน้า

โดยทั่วไปแล้วคนเอเชียและคนไทยโดยเฉพาะ พวกเราไม่ชอบการปะทะซึ่งๆหน้า เนื่องจากเราเห็นว่าการปะทะกันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและสามารถสร้างปัญหาที่ใหญ่ขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นคนไทยจึงพยายามพูดและวิจารณ์ด้วยวิธีที่อ้อมค้อมซึ่งต่างจากชาวต่างชาติ ที่เห็นว่าการพูดตรงๆ การปะทะกันต่อหน้าเป็นเรื่องปกติ พวกเขามักถามคำถามในที่สาธารณะ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ พวกเขาเชื่อว่าวิธีการนี้เป็นการทำงานแบบ โปรเฟสชั่นนัล

ถ้าคุณพบปัญหาข้างต้น ลองคิดทบทวนดูว่าผู้จัดการหรือเพื่อนร่วมงานของคุณมีวิธีการรับมือกับปัญหานี้อย่างไร ในบริษัทที่ผมทำงานอยู่ผู้จัดการหัวทองต่างเข้าใจในวัฒนธรรมนี้ของคนไทยและชาวเอเชีย พวกเขาจึงสนับสนุนให้พวกเรากล้าที่จะพูดรับหลัง โดยไม่ให้เกิดการปะทะกัน กล่าวคือ คุณสามารถส่งอีเมลไปคุยกับผู้จัดการของคุณโดยตรง หรือถ้าหากคุณอายก็สามารถคุยกับฝ่ายบุคคลได้ หรือแม้แต่ CEO ของบริษัทก็พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของคุณเช่นกัน

คนไทยไม่ชอบพูดในที่สาธารณะ

ลองนึกภาพตามว่าในห้องเรียนหรือห้องประชุม ถ้าหากครูหรือผู้จัดการบอกให้ถามคำถาม จะมีสักกี่คนที่จะกล้าถามคำถามและแสดงความคิดเห็น นี่คงเป็นวัฒนธรรมที่ฝังลึกลงในหัวคนไทยไปแล้ว เนื่องจากคนไทยนั้นรู้สึกกลัวที่จะเสียหน้า เนื่องจากเรามีความเชื่อว่าคำพูดและไอเดียของเรานั้นเป็นเรื่องของเรา ถ้าหากถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็จะรู้สึกเหมือนโดนด่า ในทางกลับกันฝรั่งเชื่อว่าไอเดียก็คือไอเดีย ไม่ได้เกี่ยวของกับตัวผู้เสนอไอเดียแม้แต่อย่างใด ถ้าหากไอเดียถูกวิจารณ์หมายความว่าไอเดียนั้นเป็นไอเดียที่ไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าคนที่แสดงไอเดียเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง

การแก้ปัญหานี้บริษัทได้สร้างแบบสอบถามเพื่อให้พนักงานได้ออกความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยคำถามและความคิดเห็นจะถูกประกาศในที่ประชุมทุกวันศุกร์ ซึ่งจะไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้ออกความคิดเห็น ซึ่งการแก้ไขปัญหาในรูปแบบนี้ช่วยให้ทั้งพนักงานมีช่องทางในการแสดงความคิดเห็นและที่สำคัญผู้บริหารได้รู้ถึงความต้องการของพนักงาน

เวลาไทย

ฝรั่งมองเวลาเป็นเส้นตรง กล่าวคือเหตุการณ์ต้องการขึ้นบนเส้นตรง ถ้าหากมีการนัดประชุม การประชุมต้องเกิดขึ้นตามเวลาที่ได้นัดหมายไว้ข้างต้น ในทางกลับกันคนเอเชียหรือคนไทยนั้นมองว่าเวลาเป็นเกิดเป็นเส้นโค้ง มีการดำเนินอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าหากบอกว่านัดประชุมตอนบ่าย 2 คนไทยก็จะคิดว่า 2.15 ก็ยังอยู่ในวงโคจรของบ่ายสอง มันก็โอเคอยู่

โดยถ้าหากความเข้าใจนี้ในที่ทำงานไม่ตรงกันแล้ว ก็จะทำให้เกิดปัญหาอย่างมาก ซึ่งการแก้ไขปัญหาในจุดนี้ก็คือผู้จัดการควรกำชับว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่ทุกคนควรให้ความเคารพ ถ้าหากพวกเราทุกคนสามารถประชุมให้เสร็จได้อย่างรวดเร็ว เราก็สามารถกลับไปทำงานส่วนตัวได้เร็วเช่นกัน

Productivity คือสิ่งสำคัญ

การทำงานให้มีประสิทธิภาพคือสิ่งที่สำคัญและเป็นหัวใจของการทำงาน บริษัทแห่งนี้มีนโยบายที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านนโยบายหลัก 3 นโยบาย

พนักงานสามารถเลือกเวลาทำงานได้เองระหว่าง 8.00-10.00 . โดยเวลาในการทำงานคือ 8 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นพวกชอบตื่นเช้าและคุณสามารถทำงานได้มากที่สุดในช่วงเช้า คุณก็สามารถเข้างานได้ตั้งแต่ 8 โมงและออกงานตอน 5 โมงเย็น และถ้าหากคุณเป็นพวกทำงานสาย คุณก็สามารถเข้างาน 10 โมงได้เช่นกัน

การมอบโอกาสให้พนักงานทำงานที่บ้านเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ช่วยให้พนักงานแห่งนี้ทำงานได้ดี เนื่องจากงานบางงานต้องการความเงียบและพนักงานต้องการโฟกัส พนักงานก็สามารถเลือกที่จะทำงานที่บ้านได้ ซึ่งนโยบายนี้ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญพนักงานได้รับความเชื่อใจจากผู้จัดการจึงทำให้พวกเขาทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น

บรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน กล่าวคือ พนักงานสามารถทำงานที่ใดก็ได้ในออฟฟิศ, พวกเราสามารถไปนั่งกับเพื่อน, ทำงานในห้องอาหารก็ได้ด้วยนโยบายนี้ทำให้ความร่วมมือในการทำงานของพนักงานเพิ่มสูงขึ้น และปัญหาในการสื่อสารที่ผิดพลาดลดลง

คลื่นใต้น้ำและการเมืองในออฟฟิศ

การเมืองในออฟฟิศเป็นเรื่องปกติในที่ทำงานที่พนักงานต้องการขึ้นมามีตำแหน่งหน้าที่เพื่อได้รับผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ที่สูงขึ้น โดยการเมืองในออฟฟิศกลายเป็นปัญหาหลักที่ทำให้พนักงานไม่อยากมาทำงาน และเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขาไม่มีกำลังใจในการทำงานต่อไป

การเมืองในออฟฟิศควรได้รับการแก้ไข ซึ่งบริษัท iPrice แก้ไขปัญหานี้ได้อย่างดี โดยเหล่าผู้จัดการมีการอธิบายให้พนักงานทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าโปรโมชั่นหรือการเลื่อนตำแหน่งในบริษัทนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นสายแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นผมดำหรือผมทอง ก็มีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งได้เช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำผลงานล้วนๆ

และในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมเห็นแล้วว่าบริษัทนี้แฟร์กับพนักงานทุกๆ คน เนื่องจากชาวเอเชียได้รับการเลื่อนตำแหน่งมากขึ้น ซึ่งลบความเชื่อของพวกเราได้เป็นอย่างดีว่า ฝรั่งก็ต้องเลือกฝรั่งเข้ามาทำงานด้วยกัน

ซึ่งทั้ง 5 ข้อข้างต้นนี้เป็นปัญหาใหญ่ๆที่ผมเห็นในบริษัทที่มีคนจากหลายเชื้อชาติทำงานด้วยกัน ที่สำคัญที่สุดคือพนักงานอย่างพวกเราที่มีหัวหน้าเป็นฝรั่งนั่นเอง ถ้าหากคุณพบปัญหาข้างต้นเหมือนกัน ลองแชร์ความคิดเห็นของคุณในคอมเมนต์นี้ว่าบริษัทของคุณแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง


กันต์พจน์ สุริวงศ์ Senior Content Marketing