ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าออปโป้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับมินิซีรีส์เรื่อง ‘My Secret Friend ปิ๊งรัก…นายอายนะ’ ที่มียอดวิวมากกว่า 2 ล้านวิวในระยะเวลาเพียง 1 วัน และล่าสุดกับการคว้าอันดับ 3 และ 6 ของ Asia-Pacific YouTube Ads Leaderboard ประจำเดือนกรกฎาคม 2560
ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ใช่ความสำเร็จครั้งแรกของออปโป้ ในปีที่ผ่านมาออปโป้ส่งมินิซีรีส์เรื่อง ‘ทฤษฎีของความรักที่คุณไม่เคยได้ยิน…’ และสามารถคว้ารางวัลอันดับที่ 4 ของ Thailand YouTube Ads Leaderboard มาครอง จากความสำเร็จเหล่านี้ คงยากที่จะปฏิเสธได้ว่า ออปโป้ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีเยี่ยม
จากมินิซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้ ออปโป้ใช้กลยุทธ์อย่างไรในการสร้างคอนเทนต์เพื่อมัดใจกลุ่มเป้าหมาย จนทำให้มินิซีรีส์กลายเป็นกระแสดังในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
1. เลือกนักแสดงตรงใจกลุ่มเป้าหมาย (Great use of influencers)
เรื่อง ‘My Secret Friend ปิ๊งรัก…นายอายนะ’ นำแสดงโดย 3 นักแสดงแม่เหล็ก ผู้ทรงอิทธิพลในหมู่วัยรุ่น ‘ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร’ ‘พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล’ และ ‘ทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี’ ซึ่งถือว่าออปโป้ได้วางกลยุทธ์ทางด้านตัวแสดงไว้อย่างดีเยี่ยม นอกจากทั้งสามคนจะเป็นสมาชิกของ OPPO Family (แบรนด์พรีเซ็นเตอร์) แล้ว ยังมีชื่อเสียงโด่งดังและมีอิทธิพลในหมู่วัยรุ่นซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของออปโป้
2. เนื้อเรื่องโดนใจ มองจาก Insight ของผู้บริโภค (Great Plot)
เนื้อเรื่องถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ออปโป้เลือกนำเสนอเนื้อหาของความรักวัยรุ่นสุดโรแมนติก โดยตีความจากไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายผ่าน Insight ของชีวิตวัยรุ่น มิตรภาพ ความรัก และเพื่อนคู่คิดอย่างสมาร์ทโฟน เพื่อเชื่อมโปรดักส์และสร้างความเข้าใจต่อแบรนด์ได้อย่างลื่นไหลและน่าประทับใจ ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เนื้อเรื่องผสมผสานความเป็นแฟนตาซี โดยนำเสนอความน่าเหลือเชื่อที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในชีวิตจริง ซึ่งในมินิซีรีส์เรื่อง ‘My Secret Friend ปิ๊งรัก…นายอายนะ’ ออปโป้เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวของหนุ่ม ’อายนะ’ (ต่อ-ธนภพ) ที่รับบทเป็นโทรศัพท์ OPPO R9s Special Red Edition ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทีมเขียนบทและนักแสดง ที่จะเชื่อมบทระหว่างความจริงและแฟนตาซีให้น่าติดตามให้ได้มากที่สุด
3. สร้างความมีส่วนร่วม ต่อยอดความสำเร็จ (Engagement)
นอกจากเนื้อเรื่องและนักแสดงจะโดนใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว ออปโป้ยังได้หยิบประเด็นหลักในแต่ละฉากที่นำเสนอเรื่องราวและประสบการณ์ตรงที่เด็กสาววัยรุ่นทุกคนคุ้นเคย คือการแอบรักแอบชอบชายหนุ่มในฝัน เพื่อให้พวกเค้ารู้สึกมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเกิดยอดวิวรวมถึงฟีดแบ็กและคอมเมนต์จากผู้ชมจำนวนมาก ที่ต้องการติดตามชมมินิซีรีส์ในตอนถัดไป ทำให้เกิดผลตอบรับเชิงบวกทั้งต่อโปรดักส์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างดีเยี่ยม
4. Storytelling ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ (Full of Emotions)
จุดเด่นในมินิซีรีส์จากออปโป้ คือ การเลือกใช้การเล่าเรื่อง (Storytelling) ที่สื่ออารมณ์อย่างชัดเจน โดยสามารถนำเสนอเรื่องราว ผ่านนักแสดงและโปรดักส์รวมถึงสื่อสารฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างครบถ้วน โดยเนื้อหายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ สุข เศร้า และสนุกอย่างครบรส โดยเฉพาะอารมณ์ ‘ฟิน’ ที่ออปโป้นำมาใช้ดึงดูดให้ได้ใจกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ จึงทำให้สามารถดึงอารมณ์ผู้บริโภคให้ชมซีรีส์ได้ต่อเนื่องจนจบ
และอีกสิ่งหนึ่งที่ออปโป้ทำได้อย่างดีเยี่ยมนั่นก็คือ การผสมผสานแบรนด์เข้ากับเนื้อหาของซีรีย์ได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ทำให้ผู้ชมต้องรำคาญใจ หรือขัดอารมณ์ขณะดูซีรีส์ แถมยังเป็นการสร้าง Brand awareness และ Product awareness ต่อกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างคอนเทนต์ที่ดีก็คงจะหนีไม่พ้นเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจผู้บริโภค แบรนด์ควรระลึกเสมอว่าต้องสื่อสารในสิ่งที่ผู้รับสารอยากจะฟัง ไม่ใช่สิ่งที่แบรนด์อยากจะพูดเพียงอย่างเดียว ซึ่งออปโป้ก็ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สามารถสื่อสารได้ตรงใจผู้รับสารอย่างมีประสิทธิภาพ และหลังจากนี้ออปโป้จะมีอะไรมาให้เราได้ชมกันอีก คงต้องมารอดูกัน
Reference:
http://www.campaignasia.com/topic/asia-pacific-youtube-ads-leaderboard/428514
https://www.mxphone.net/090317-top-ten-youtube-ads-leaderboard-thailand-2016/