ถือเป็นช่วงโค้งเกือบสุดท้ายก่อนสิ้นปี หลายแบรนด์จึงออกโปรโมชั่นมากระตุ้น สตาร์บัคส์และคริสปี้ครีมสองแบรนด์เครื่องดื่มและขนมจากอเมริกา พร้อมใจกันจัดโปรโมรชั่น เรียกลูกค้ามาต่อคิวเข้าแถว เรียกกระแสในโลกออนไลน์
สตาร์บัคส์จัดว่าเป็นร้านกาแฟที่อยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยมแมสมีราคาเครื่องดื่มตั้งแต่ราคาตั้บแต่ 100 บาทขึ้นไป และมีการใช้กลยุทธ์การจัดทำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม1 มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบของคูปองแบบไม่จำกัดเวลาและแบบจำกัดช่วงเวลาในวันธรรมดา เป็นต้น
ในเดือนกันยายนนี้ สตาร์บัคส์ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษอีกครั้ง แต่คราวนี้มาในโปร “เครื่องดื่มฟรี” แก่ผู้ที่มาเข้าแถวซื้อ โดยกำหนดให้เครื่องดื่มฟรีให้กับผู้ที่มาต่อแถวซื้อสินค้าในคิวที่ 1 – 10 ของวัน จะได้รับเครื่องดื่มฟรีประเภทใดก็ได้ขนาด 12 ออนซ์ จำกัดคนละ 1 แก้ว และคิวที่ 11 – 20 ของวันรับส่วนลด 80% ประเภทใดก็ได้ จำกัดคนละ 4 แก้ว ส่วนคิวที่ 21 เป็นต้นไปรับสิทธิ์ซื้อ 1 แถม 1 แก้วฟรี (จำกัดคนละ 4 แก้ว) ในเวลา 14.00 น. เป็นต้นไปจนร้านปิด ทุกวันพุธ–ศุกร์ตั้งแต่ 13-29 ก.ย. 60 ทุกสาขา ยกเว้นสาขาสนามบินและการซื้อแบบ Drive Thru
คาดว่าโปรดังกล่าวจะมีคนมาต่อแถว จนเกิดการแชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย สร้างการรับรู้ต่อเนื่อง
ทางด้าน “คริสปี้ครีม” เป็นแบรนด์โดนัทจากอเมริกาที่เคยเข้ามาสร้างปรากฏการณ์การต่อแถวในประเทศไทยจนกลายเป็นวลีฮิตติดปากว่า “ขนมโดนัทต่อแถว”
แต่ในช่วงหลังเนื่องจากมีขนมจากแบรนด์ต่างชาติแห่กันเข้ามาเช็กอินในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งไอศกรีม คุกกี้ และเบเกอรี่ต่างๆ ทำให้กระแสของคริสปี้ครีมดูแผ่วลงไป
ในช่วงเดือนกันยายนนี้ คริสปี้ครีม ได้จัดโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 7 ปี ที่สาขาสยามพารากอน โดยให้สิทธิ์ลูกค้าที่มาเข้าคิว 177คนแรกของแต่ละวันรับสิทธิ์ซื้อโดนัท Original Glazed 1 โหลในราคา 77 บาท (จากปกติ 249 บาท) จนถึงวันที่ 15 กันยายนโดยมีเงื่อนไขคือ 1 คนต่อ 1 โหล และที่เฉพาะสาขาสยามพารากอนเท่านั้น
งานนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นยอดขาย ยังทำให้ภาพการเข้าคิวซื้อถูกแชร์ในโซเชียลมีเดีย เพราะมีผู้สนใจแห่ไปรอซื้อจำนวนมากตั้งแต่ห้างเปิด ทำให้คิวเต็มตั้งแต่เปิดจองเพียงไม่กี่นาที แต่ก็มีเสียงบ่นจากผู้บริโภคว่าน่าจะเปิดสาขาที่ร่วมโปรโมชั่นเพิ่ม หรือขยายคิวเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มารอจำนวนมาก
สำหรับการจัดทำโปรโมรชั่นของร้านค้าที่ให้ผู้บริโภคมาต่อแถวเพื่อรอซื้อสินค้านั้นนับวันจะมีให้เห็นบ่อยขึ้นทั้งที่แบรนด์ไทยและต่างชาติ เพราะสามารถสร้าง Brand Awareness ให้เกิดการรับรู้ ทำให้เกิดกการแชร์ภาพและการบอกต่อในโลกโซเซียล ซึ่งนำมาซึ่งการรับรู้การอยากลองการอยากเป็นเจ้าของ
นักการตลาดได้ให้คำแนะนำว่า สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างกระแสการต่อแถว ต้องมาพร้อมกับ Cutting Edge Marketing ความภูมิใจต่อกลุ่มผู้ยอมเสียเวลาและอดทนมาเข้าแถวให้สมประโยชน์ด้านจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นแรงปรารถนาส่วนตัวหรือการเป็นที่รับรู้และรู้จักของสังคมในฐานะคนกลุ่มแรกที่ได้รับโอกาสพิเศษของกิจกรรมนั้นๆ
โดยสินค้าหรือบริการที่ไปต่อคิวต้องให้สิทธิประโยชน์บางประการที่พิเศษและแตกต่างไปจากการซื้อในช่วงเวลาปกติอย่างเห็นได้ชัด หรือเป็นลักษณะของ Reward and Limited Time แบรนด์ที่นิยมใช้การเข้าแถวคือสินค้าไลฟ์สไตล์เช่น ไอที ร้านอาหาร แฟชั่น.