วอลมาร์ท (Walmart) ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เปิดตัวบริการใหม่แล้ว โดยเป็นบริการจัดส่งสินค้าในย่านซิลิคอนวัลเลย์ที่จับกลุ่มสมาร์ทโฮม หรือบ้านอัจฉริยะ ที่เจ้าของบ้านสามารถสั่งการจากระยะไกล ให้ “บ้าน” เปิดประตูต้อนรับพนักงานส่งของ นำของเข้ามาส่งให้ถึงในบ้าน รวมถึงอาจจะจัดของแช่ในตู้เย็นให้เรียบร้อย จนกลับออกไป และระบบก็ส่งข้อความมาว่า ประตูบ้านล็อคเรียบร้อยแล้ว โดยที่เจ้าของบ้านเพียงแค่เฝ้าติดตามผ่านกล้องรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งเอาไว้เท่านั้น
โดยบริการนี้เกิดขึ้นได้ผ่านเทคโนโลยีของสองสตาร์ทอัปอย่างค่ายออกัส โฮม (August Home) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะต่าง ๆ และบริการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียวชื่อ เดลีฟ (Deliv) ด้วย
โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้แก่ ผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้าจาก Walmart.com จากนั้น เมื่อออเดอร์ถูกจัดเรียบร้อย คนขับจาก Deliv ก็จะมารับสินค้าไปส่งที่บ้าน แต่ถ้าคนขับไปกดกริ่งหน้าบ้านของ August Smart Lock แล้วพบว่าไม่มีใครอยู่ คนขับจาก Deliv อาจได้รับพาสโค้ดจากเจ้าของบ้านเพื่อมาป้อนลงในเครื่องก็ได้
ส่วนเจ้าบ้านก็สามารถดูได้ว่าใครมาที่บ้านผ่าน August Doorbell Cam กล้องวงจรปิด และถ้าพบว่าไว้ใจได้ ก็สามารถส่งพาสโค้ดให้เขาป้อนกับที่ล็อกประตูเพื่อเปิดเข้าบ้านได้เลย โดยมีกล้องอัจฉริยะภายในบ้านคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวให้อีกที
สโลน เอดเดิลสตัน (Sloan Eddleston,) รองประธานของวอลมาร์ท ฝ่ายกลยุทธ์อีคอมเมิรซ์และธุรกิจ เผยว่า ในฐานะเจ้าของบ้าน (อัจฉริยะ) แล้ว ต่อไปนี้จะสามารถควบคุมประสบการณ์ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ประตูบ้านเปิดจนประตูบ้านปิด
แน่นอนว่า การเปิดตัวบริการใหม่นี้จะทำให้วอลมาร์ทเป็นที่จับตามองถึงการแข่งขันกับแอมะซอน (Amazon) ค้าปลีกออนไลน์ที่ระยะหลังรุกหนักเหลือเกิน โดยมีข่าวลือว่า แอมะซอนเตรียมเปิดตัวระบบกล้องรักษาความปลอดภัยในบ้านที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานควบคุมได้ผ่านระยะไกลมาแล้ว รวมถึงสามารถแจ้งเตือนได้หากพบว่ามีใครมายืนรอหน้าบ้านผ่านลำโพงอัจฉริยะเอ็กโค่ โชว์ (Echo Show) ด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า วอลมาร์ทจะชิงโอกาสนี้รีบเปิดตัวบริการในลักษณะดังกล่าวเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้แอมะซอนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการเปิดตัวทั้งอุปกรณ์และการส่งของให้ถึงบ้านนั่นเอง
สิ่งที่วอลมาร์ทต้องทำคือการจับมือกับกูเกิล (Google) เอาไว้ให้ดี เพราะกูเกิลเองระยะหลังก็มีหลายสิ่งบ่งบอกว่า เริ่มมองแอมะซอนเป็นคู่แข่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยการจับมือกันของวอลมาร์ทและกูเกิลคือให้ผู้ใช้กูเกิลโฮม (Google Home) สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านลำโพงอัจฉริยะนั่นเอง
ประกอบกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทในเครืออัลฟาเบ็ท (Alphabet) อย่างเนสท์ (Nest) เพิ่งเปิดตัวอุปกรณ์ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านครั้งใหญ่ ที่มาพร้อมกับผู้ช่วยดิจิตอลอย่าง Google Assistant แล้วด้วย ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้แผนการตลาดของวอลมาร์ทชัดเจนยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่า ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่า 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐของแดนอินทรียามนี้ดุเดือดไม่ต่างจากวงการเทคโนโลยีเลยแม้แต่น้อย และสิ่งที่วอลมาร์ท – แอมะซอนนำออกมาสู้กันอยู่นี้ ก็เป็นเรื่องของการสร้างประสบการณ์การให้บริการให้ดีที่สุดโดยมี “เทคโนโลยี” อยู่เบื้องหลังเสียด้วย
ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000097519