เทรนด์สุขภาพเป็นเรื่องที่พูดกันอย่างหนาหูในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา และผู้บริโภคได้ให้การตอบรับอย่างจริงจัง ที่ถูกคาดหมายว่ายังคงเป็นเทรนด์ที่สำคัญในปี 2009 แต่ Healthy ไม่อาจขายได้เดี่ยวๆ อีกต่อไป ต้องบวกคุณประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น Beauty และ Smart จะถูกหยิบยกมาเป็นส่วนผสมที่เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค โดยเห็นได้ชัดเจนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่แม้บางรายจะไม่มีนวัตกรรมอะไรแต่การลดปริมาณน้ำตาลลงจากเดิมก็ใช้เป็นจุดขายได้ไม่ยาก
Taylor Nelson Sofres (ประเทศไทย) เปิดเผยด้วยตัวเลข Beauty Conscious ของผู้หญิงไทยมีมากถึง 65% เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่า สาวไทยแม้ว่าเจอวิกฤตเศรษฐกิจที่ผันผวน สินค้าขึ้นราคา น้ำมันราคาเดี๋ยวถูกเดี๋ยวแพง แต่พวกเธอยังใช้จ่ายในด้านสุขภาพและความงามอย่างต่อเนื่อง โดยไม่อาจมีปัจจัยใดไปสั่นคลอนได้เลย
ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม และสุขภาพสามารถเติบโตได้เสมอ เพราะสำหรับผู้หญิงต้อง “ขอสวยไว้ก่อน” เรื่องอื่นไว้ที่หลัง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียซึ่งมี Beauty Concious ต่ำกว่าไทย อาทิ เวียดนาม 43% จีน 43% หรือสิงคโปร์ 33%
“กระแสรักสุขภาพรักสวยรักงามยังแรงไม่ตกลากยาวถึงปีหน้า เพราะผู้หญิงสมัยนี้ฉลาดขึ้นและอยากมีอายุอ่อนกว่าเยาว์ รักตัวเอง และไม่อยากเป็นแม่บ้านที่คร่ำครึอยู่แต่ในครัวอีกต่อไป” ยุพิน สุวรรณใจ Research Director ของ Taylor Nelson Sofres (ประเทศไทย) บอกถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนไป
ขณะที่พฤติกรรมโดยรวมทั้งหญิงชายพบว่า 76% บอกว่าใส่ใจดูแลสุขภาพ และ 44% ออกกำลังกายอย่างน้อยเป็นประจำทุกสัปดาห์
บวก “ความงาม” ขายได้โลด
สินค้ากลุ่มสกินแคร์มีอัตราการเติบโตถึง 8% จากปีที่ผ่านมาโต 7% แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไม่ได้ลดการใช้จ่ายหรือชะลอการซื้อจากสินค้ากลุ่มนี้
สินค้ากลุ่ม Healthy+ สินค้ากลุ่มวิตามินเพื่อความงามกำลังเป็นเซ็กเมนต์ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองในปีหน้า ขณะเดียวกันนี้ “แบรนด์” ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่หันมารุกเซ็กเมนต์นี้เมื่อหลายปีก่อน ทั้งๆ เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่แตกไลน์ขยายเซ็กเมนต์กระโดดเข้าสู่กระแส “ดื่มแล้วสวย” ภายใต้กลุ่มแบรนด์ “วีต้า” ที่มีตั้งแต่วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น วีต้าเบอรี่สกัดเข้มข้น และล่าสุดวีต้า บาลานซ์ ตอกย้ำเป็นกลุ่มอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม
รวมถึงชาเขียว ลิปตัน ไนน์ จากค่ายเสริมสุข ที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน อายุ 20-39 ปี ที่เอาสุขภาพและความงามยัดลงขวดพร้อมดื่มให้สาวยุคนี้ โดยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ผู้หญิงรุ่นใหม่รักและหันมากอดตัวเอง เน้นปริมาณน้ำตาลที่ต่ำกว่าในท้องตลาดเกือบครึ่ง เป็นการกลับมารุกตลาดชาเขียวอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังจากอกหักจากครั้งก่อนหน้า
“การเปิดเซ็กเมนต์ความงามใหม่” คือคำตอบของ สุวรรณี สุวรรณี ศรีธัญญะโชติ” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด เพราะถึงแม้จะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตดี แต่ก็มีปลาใหญ่ในทะเลนี้อยู่แล้ว จึงทำให้เธอเลือกที่จะสร้างเซ็กเมนต์ใหม่ขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็สร้างให้ตลาดนั้นเติบโตพร้อมกับกลายเป็นปลาใหญ่ในท้องทะเลใหม่
เธอเล่าอีกว่า “กลุ่มสินค้าสกินแคร์สำหรับผิวหน้า ทุกแบรนด์ล้วนแต่พูดแต่เรื่องทำอย่างไรให้ผิวขาวขึ้น การจะไปพูดในเรื่องเดิมๆ ก็ไม่ช่วยในการสร้างมาร์เก็ตแชร์ได้ แต่ “ยูเซอร์รีน” กลับพูดเรื่อง “ไวต่อแดด” หลังจาก TVC ออนแอร์ ส่งผลให้ยอดขายพุ่งขึ้นถึง 6 เท่า
ถือเป็นการสอดแทรกหาจุดยืนในตลาดที่แตกต่างจาก Consumer Insight อันสลับซับซ้อนของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
บำรุงสมอง ของขายคนไอเดียตีบ
หากปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ Beauty Drink มาแรง ปีนี้และปีต่อไปคือปีทองของ Smart Drink อย่างไม่ต้องสงสัย 2 ค่ายใหญ่ๆ ที่โฟกัสในเรื่องนี้ คือ โอสถสภาที่ส่งเปปทีน ซึ่งเป็นเครื่องดื่ม Soy Peptide เน้นคุณประโยชน์ของสารสกัดถั่วเหลือง จับกลุ่มทั้งนักเรียนนักศึกษาและคนทำงานระดับผู้บริหาร แต่ขณะนี้โดน อย.สั่งระงับการโฆษณาในสื่อทีวีและสิ่งพิมพ์เนื่องจากมีการโฆษณาในข้อความที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.
กรณีนี้จึงเป็นข้อคิดสำหรับสินค้าที่จะทำตลาด Smart Drink เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเช่นกรณีดังกล่าว
ขณะที่ BraneFit ของค่ายอายิโนะโมะโต๊ะ ก็เป็น Smart Drink อีกแบรนด์ที่เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยชูจุดขายของการเป็นเครื่องดื่มที่ส่วนผสมของสารอาหารที่มีมากกว่า 1 อย่าง อันมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
ส่วนผสมสารพัดมากกว่า 1 อย่าง ยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์มากขึ้น เพราะมีส่วนทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อว่า มากกว่าก็ดีกว่า ดังนั้น สินค้าที่ต้องการเป็น Healthy+ เพียงใดยิ่งต้องพัฒนานวัตกรรมเสาะหาสารที่มีคุณค่ามาเป็นส่วนผสม แต่ต้องกล้าที่จะเปิดเผยข้อมูลและขายของด้วยความจริงที่ไม่โม้หรือโอ้อวดจนเกินเหตุ เพราะผู้บริโภคยุคนี้ Smartness ซึ่งเป็นเทรนด์ที่จะรายงานในลำดับถัดไป