ถอดหน้ากากพิธีกร “กันต์ กันตถาวร”

เรื่อง : สาวิตรี รินวงษ์

แม้นักแสดงหนุ่ม “กันต์ กันตถาวร” จะอยู่ในวงการบันเทิงมาเกือบ 10 ปี แต่กว่าเจ้าตัวจะดังได้ ต้องผ่านบทตัวประกอบของตัวประกอบ เป็นตัวร้าย ก่อนจะได้รับบทพระเอกในภายหลัง แต่ความฮอตของหนุ่มกันต์มีมากขึ้นเมื่อมาสวมบทบาทเป็น “พิธีกร” รายการแฟนพันธุ์แท้, I Can See Your Voice Thailand และ The Mask Singer จนฐานผู้ชม แฟนคลับขนานนามให้เป็น “สามีแห่งชาติ” เป็น Personal Branding 

ศิลปินนักแสดงแต่ละคนจะมี “บุคลิก” ที่สะท้อนตัวตนชัดเจน หากกล่าวถึงความเป็นแบรนด์ แต่ละคนก็เป็น Personal Branding กันต์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่ต่างจาก อั้ม พัชารา, ชมพู่ อารยา, เสี่ยตา ปัญญา หรือนักการตลาดก็ต้องยกให้ “เสี่ยตัน แห่งอิชิตัน”

ทว่า ในงาน TEDxChulalongkornU ปีที่ Strive Forward : The World is Changing , Are You? “กันต์” ได้ทำหน้าที่ทอล์กในหัวข้อ The Mask Unfold ชวนทุกคนมาถอดหน้ากาก แล้วมองให้ลึกถึง “คุณค่า” ภายในตัวคนทุกคนมากกว่า “เปลือก” ภายนอก ทำให้เห็นอีกตัวตนของกันต์ในฐานะ Personal brand คนบันเทิง

ภายใต้บทบาทพิธีกรรายการ The Mask Singer กันต์บอกว่า เขาคงกลายเป็นคนที่ถอดหน้ากากคนมากที่สุดในประเทศไทยไปแล้ว และที่น่าภาคภูมิใจคือ รายการได้สร้างโอกาสให้ศิลปิน นักแสดง เซเลบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทย ที่สวมหน้ากาก สวมหัวโขน จาก “ตัวเองเลือกสวมใส่” และ “ผู้คนในสังคมสวมใส่ให้” ป้อนสู่หน่วยความจำของแต่ละคน โดยไม่เคยรู้ว่า พวกเขาเหล่านั้นมีความรู้ความสามารถอะไรบ้าง นอกเหนือจากการแสดงผ่านจอแก้ว

ดังนั้น เมื่อพูดถึงการถอดหน้ากากวันนี้ ไม่ใช่เรื่องวัตถุ สิ่งของที่ปิดบังใบหน้า แต่คือ “เปลือก” อะไรบางอย่างที่บดบังตัวตนที่แท้จริงของคน

และกันต์ ก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกคนในสังคม แฟนๆ สวมหน้ากากให้เขาในหลากหลายบทบาท แม้เขาจะป็นนักแสดงมาก่อน แต่บทบาทที่เจ้าตัวอยากทำมากที่สุดคือ “พิธีกร” และดูเหมือนจะเหมาะเจาะกับ “เวิร์คพอยท์” ที่มองหาตัวตายตัวแทน “เสี่ยตาปัญญา นิรันดร์กุล” ผู้กุมบังเหียนเวิร์คพอยท์ และพิธีกรฝีมือดีของช่องและวงการบันเทิงเลยทีเดียว

หลายครั้งที่บรรดา “ผู้ถือหุ้น” ของเวิร์คพอยท์ตั้งคำถามในการประชุมผู้ถือหุ้นว่า หากไม่มีเสี่ยตา เวิร์คพอย์ท์จะเป็นยังไง ดังนั้นเวิร์คพอยท์จึงส่งเทียบเชิญศิลปินหลายคนมาร่วมงาน แต่ “กันต์” เวลาลงตัวเหมาะเจาะ ทั้งความตั้งใจ และมีคิวว่างให้มากสุด

โป๊ะเชะ! ลงล็อก!

จุดเปลี่ยนที่ทำให้กันต์ สวมหน้ากากเป็นพิธีกร เพราะตอนรับงานละคร เรื่อง เทคิวทำงานตลอด วัน ตั้งแต่ โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ดูแลธุรกิจอีก บริษัท จะหาเวลากินข้าวกับ “พ่อแม่” ยังลำบาก กระทั่งเคยยกหูถามกองละครว่า “ผมขออนุญาตกินข้าวกับพ่อแม่ได้ไหมครับ กองละครบอกว่า ไม่ได้ เพราะมีคิวต้องถ่าย ผม…ซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้าผมจะทานข้าวกับพ่อแม่ ผมต้องขออนุญาตใครไหม (วะ)” แต่นั่นไม่ใช่ความผิดกองละคร เพราะเขาให้คิวกองถ่ายเอง

โจทย์ชีวิตครานั้นที่ต้องการประสบความสำเร็จในการทำงาน อยากมีในสิ่งที่วาดหวังไว้ บ้าน ทรัพย์สินในวัยที่ยังหนุ่มยังแน่น ดูแลคนรักและน้องหมา ตัวให้ดีที่สุด เมื่อได้มา กลับไม่ตอบโจทย์ความสุข จึงเลือกเปลี่ยนโจทย์ชีวิตใหม่ จากไม่มีเวลาให้ครอบครัว และเห็น “ข้าวเหนียวหมูปิ้งที่อยากกิน ซึ่งแม่นำมาแขวนไว้ที่ลูกบิดประตูบ้าน” สตั๊นท์ไปเสี้ยว 2 นาที

“แล้วคิดว่าทำไม (วะ) เรากินข้าวกับพ่อแม่ไม่ได้ เดือนจากนั้น เกิดจุดเปลี่ยนพอ…ไม่เอาอีกแล้ว ตั้งโจทย์ชีวิตใหม่ ผมอยากทำให้คนรอบตัวมีความสุขที่สุด ประสบความสำเร็จ มีรอยยิ้มให้ผม คิดชีวิตผมมีความสุขแล้ว ผมไม่อยากรวยที่สุดในโลก แต่อยากเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกคนหนึ่ง”

หน้ากากใหม่ที่กันต์สวมใส่ ปีก่อน คือการทำพิธีกรรายการต่างๆ ทางช่องเวิร์คพอยท์ ก่อนทำปรึกษาคนรอบข้างตั้งแต่พ่อแม่ รุ่นพี่ในวงการที่สนิท ทุกคนให้ความเห็นตรงกันแก่เขาคือ “คัดค้าน” หน้ากากพิธีกร โดยยกความยากกว่าจะก้าวมาสู่จุดที่เป็น “พระเอก” ได้ ไม่ง่ายและไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ แล้วทำไมจะปล่อยหลุดมือไป เพื่อไปเริ่มสิ่งใหม่ที่ไม่รู้หัวรู้ก้อยว่าจะประสบความสำเร็จไหม แต่เขาไม่ยอมให้ใครมาสวมหน้ากากให้ หรือไม่ยอมให้ใครมาขีดเส้นทางชีวิต

ผมถูกตัดสินจากสิ่งที่คนรอบตัวเห็น แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครคนอื่นมาบอกผมว่า ผมทำอะไรได้หรือทำไม่ได้

แต่การเป็นพิธีกรแทน “เสี่ยตา” ใช่ว่าง่าย เพราะทุกคนรู้ดีและเมื่อเห็นรายการแฟนพันุ์แท้ จะนึกถึงใครอื่นได้ นอกจาก “เสี่ยตาปัญญา” แต่เมื่อได้รับมอบหมายก็ต้องทำให้ได้ “วันนี้ผมยังไม่เก่งหรอก แต่ผมสัญญาว่าจะยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ผมยังมีข้อผิดพลาดหลายอย่าง มีอะไรที่ต้องเรียนรู้ตามชั่วโมงบิน”

หนุ่มวัยกลางคน 32 ปีคนนี้ ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก รายการ The Mask Singer อาจถอดหน้ากากศิลปินมากความสามารถหลายคน แต่ยังเป็นอีกเวทีที่ถอดหน้ากากให้คนย้อนกลับมามองตัวเอง และไม่ตัดสินใครจากหน้ากากที่เห็นเท่านั้น

ดังนั้น สั้นๆ ง่ายๆ วันนี้ ผมอยากให้ทุกคน…ถอดหน้ากากครับ สวัสดี!